ตำรวจแจ้งข้อหาประธานบริษัทฯ และตัวแทนจำหน่ายบัตรพลังงานฐานฉ้อโกงประชาชน ขณะที่ “ซีอีโอ” บริษัทฯ ยอมรับใช้แตะร่างกายแล้วหายปวดเมื่อยจึงบอกต่อ
วันนี้ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น นายธนัช สุรินทร์ ประธานบริษัท เอ็กซ์เพิร์ทโปร เน็ทเวิร์ค จำกัด และเจ้าของบัตรพลังงาน พร้อมด้วย นายสินธนู เรียนพิศ ตัวแทนจำหน่ายบัตรพลังงานชาวอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น และ นายธงชัย นายกชน ผู้ที่ปรากฏอยู่ในภาพงานเลี้ยงสังสรรค์ของบริษัทฯ ในสถานที่แห่งหนึ่งในอำเภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและเข้าให้ปากคำกับคณะพนักงานสอบตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น
ตามหมายเรียกในคดีที่ พ.ต.อ.ธนรัตน์ มีทองหลาง ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐผู้เสียหาย กล่าวหาว่าทำการฉ้อโกงประชาชนจากการจำหน่ายบัตรพลังงานให้กับชาวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการแยกสอบปากคำผู้ต้องหาเป็นรายบุคคล โดยมีทนายความเข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำตามสิทธิทางกฎหมาย ซึ่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ
พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น ระบุว่า ผู้ที่ถูกออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาทั้ง 3 ราย ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีบทบาทและเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายบัตรพลังงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับได้ทันที แต่เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ด้วยการเข้ามาพบตามหมายเรียก จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบฐานฉ้อโกงประชาชน และได้ทำการสอบปากคำรายบุคคลอย่างละเอียด ซึ่งทุกคนยังคงให้การภาคเสธว่า ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงประชาชน
แต่จากพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมมาได้ โดยเฉพาะหลักฐานการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ รวมทั้งการส่งตัวอย่างบัตรไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งพบว่า ไม่มีสรรพคุณทางยาที่สามารถใช้รักษาโรคใดๆ ได้ จึงขอให้ประชาชนเลิกใช้บัตรดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากภายในบัตรมีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตราย
ด้านนายธนัช สุรินทร์ ประธานบริษัท เอ็กซ์เพิร์ทโปร เน็ทเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า บัตรดังกล่าวตนได้รับต่อมาจากบริษัทต่างชาติบริษัทหนึ่ง ซึ่งมีกว่า 1,000 ใบ โดยตนเองได้ใช้เป็นของแถมไปกับผลิตภัณฑ์แอลคาร์นิทีน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับการที่ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์นำบัตรไปแยกขายต่างหาก ตนเองเป็นประธานบริษัทฯ ก็ทำหน้าที่นั่งบริหารงาน จึงไม่ทราบว่ามีการกระทำดังกล่าว
แต่ก็มาทราบภายหลังจากที่มีข่าวนำเสนออกไปจึงได้สอบถามไปยังสมาชิก ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ไม่ได้หลอกขาย เพียงแต่ให้ลูกค้านำบัตรไปลองใช้ดูเท่านั้น ซึ่งโดยความเชื่อส่วนตัวแล้ว ตนเองมีความเชื่อว่า บัตรนี้สามารถใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ หลังจากที่ได้ลองใช้เอง เมื่อเห็นว่ามีประโยชน์จึงแถมไปกับผลิตภัณฑ์ให้กับสมาชิก ซึ่งยอมรับว่า ได้บอกกับสมาชิกว่าให้ลองใช้บัตรแตะบรรเทาอาการปวดเมื่อยดูเพราะช่วยให้อาการปวดดีขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ตามสิทธิ์ทางกฎหมาย เนื่องจากทั้ง 3 คนได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีและไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนี แต่มีเงื่อนไขว่า จะต้องมารายงานตัวหรือมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีการเรียกให้เข้าพบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เรียกเครือข่ายบัตรพลังงานพบพนักงานสอบสวน 10 ก.ค.นี้
- โผล่แล้วที่นครพนม”บัตรพลังงาน” ยายวัย 70 ปี ตกเป็นเหยื่อถูกหลอก คาดมีอีกหลายราย เร่งเก็บหลักฐานเอาผิด
- ปส.เตือนประชาชนใช้บัตรพลังงานหวังรักษาโรค พบรังสีปนเปื้อน ห่วงผู้ใช้มีผลต่อร่างกายในระยะยาว ย้ำไม่ควรรับรังสีโดยไม่จำเป็น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: