ขอนแก่น – ความคืบหน้ากรณีนักศึกษาแพทย์ ม.ขอนแก่น โพสต์ fb พบกล้องวิดิโอแอบถ่ายติดตั้งในห้องน้ำชายถึง 3 แห่ง ล่าสุดคณบดีประกาศจะเอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ คาดในเดือนนี้ได้ผลตรวจลายนิ้วมือมาเทียบเคียงกับบุคลากรทุกคน
ความคืบหน้ากรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Keen Pinkaew โพสต์ภาพอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดกล้องถ่ายวีดีโอขนาดเล็ก มีเม็มโมรี่การ์ดสำหรับเก็บข้อมูล ติดตั้งอยู่ในห้องน้ำโรงพยาบาล ซึ่งผู้โพสต์ระบุว่าเป็นห้องน้ำของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งได้รับความสนใจในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก
กระทั่งต่อมาฝ่ายกิจกรรมพิเศษและการสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้มีหนังสือชี้แจงความคืบหน้ากรณีนี้ว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าวได้แจ้งหน่วยรักษาความปลอดภัย และผู้รับผิดชอบเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนแล้ว 3 ราย เพื่อขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่สืบหาเบาะแสผู้ก่อเหตุ
แต่เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมาถึงมีการแจ้งความ ซึ่งเมื่อไปตรวจ สอบกล้องวงจรปิด จึงไม่สามารถค้นหาข้อมูลเบาะแสของผู้ก่อเหตุได้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำสิ่งที่ตรวจพบในห้องน้ำส่งตรวจพิสูจน์หาลายนิ้วมือแฝง ซึ่งคาดว่าประมาณ 1 เดือนจึงจะทราบผล หากพบว่า ลายนิ้วมือนั้นใกล้เคียงกับบุคคลใด พนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียกตัวมาสอบสวนทันที
เรื่องนี้รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ว่า
“ประเด็นที่นักศึกษาคนนั้นตั้งข้อสงสัยก็คือ ทำไมทางคณะจึงไม่เอาใจใส่ ทิ้งเวลาไว้ถึงหนึ่งเดือนก่อนจะไปแจ้งความ ผมก็สอบถามดูแล้วได้ความว่า ทางเจ้าหน้าที่เขาก็บอกว่าเขาไปที่สถานีตำรวจแล้ว ทางตำรวจบอกว่าเจ้าหน้าที่ของคณะไม่ใช่ผู้เสียหาย ต้องให้ผู้เสียหายมาแจ้งความเอง เขาก็ติดตามเด็กว่า เมื่อไหร่จะว่างตรงกัน เวลามันจึงได้ล่วงเลยมาเป็นเดือนหนึ่ง อันนี้เรื่องหนึ่ง
เรื่องที่สอง เด็กเค้าอยากจะให้คณะออกประกาศเตือน แต่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบไปคิดว่า ถ้าประกาศเตือนเดี๋ยวเรื่องจะไปกันใหญ่ หรือในอีกด้านหนึ่งก็คือคงจะคิดว่าจะจับคนร้ายด้วยก็เลยไม่อยากให้เป็นข่าว แต่ถ้าเป็นผมๆ ก็ให้ประกาศเตือนไปแล้ว เพราะว่าไม่มีอะไรเสียหาย อันนี้ก็เป็นความคิดความเข้าใจของทีม รปภ. ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทำให้เด็กเข้าใจผิดว่า ทางคณะปิดบังเพราะกลัวเสียชื่อ แต่จริงๆ ทางคณะไม่ได้มีอะไรเสียหาย เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งจริงๆ แล้วควรจะประกาศเตือนจะได้มีคนช่วยสอดส่อง
ตั้งแต่เกิดเรื่องทางฝ่ายรักษาความปลอดภัย เขาก็ให้ รปภ.มาตรวจตราถี่ขึ้น ให้แม่บ้านตรวจตราห้องน้ำทุกแห่งทั้งห้องน้ำหญิงด้วย อบรมแม่บ้านในการสังเกตลักษณะกล้องพวกนี้ เพราะถ้าไม่ใช่คนที่คุ้นเคยกับเรื่องของไอที ก็อาจจะมองไม่ออกว่านี่ไม่ใช่เครื่องดับกลิ่น ไม่ใช่เครื่องตรวจจับสัญญาณควันไฟไหม้ ให้แม่บ้านเขารู้ว่าพวกนี้ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ปกติ
แต่สิ่งที่ผมอยากได้มากกว่านั้นก็คือ จับตัวผู้กระทำผิด ตอนนี้เราก็รอผลตรวจลายนิ้วมือซึ่งโชคดีว่าเด็กเขาก็รอบคอบนะ สำหรับกล้องตัวที่สอง ตัวที่สาม เขาก็ใส่ถุงมือก่อนจะจับ ซึ่งถ้าได้ลายนิ้วมือมา ผมก็จะให้เอามาเทียบเคียงกับลายมือของบุคลากรแล้วก็ของนักศึกษาทั้งหมด ซึ่งคนที่ทำก็เป็นได้ทั้งคนนอกและคนใน แล้วก็เป็นผู้ที่มีความรู้ดีด้วย อาจจะเป็นพวกโรคจิตหรือเบี่ยงเบนทางเพศเพราะตามข่าวที่เราได้ยินกันทั่วไปก็มักจะเกิดเหตุในห้องน้ำหญิงนะครับ
สำหรับอุปกรณ์พวกนี้เท่าที่ทราบมีราคาตัวละ 2,000 บาท สามารถส่งสัญญาณภาพไปดูทันทีได้ ซึ่งถ้าเรารู้ว่าเครื่องนี้มันส่งสัญญาณไปที่คอมพิวเตอร์เครื่องไหนในคณะ เราก็จะตรวจดูไอพีของเครื่องนั้นได้ แต่ถ้าส่งออกไปยังมือถือเครื่องข้างนอกอันนี้อาจจะยากในการติดตาม แต่ถ้าจับตัวได้จริงเราจะลงโทษขั้นเด็ดขาด
ยืนยันว่า กระบวนการป้องกันเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่เจ้าหน้าที่เขารับแจ้งเหตุแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ซึ่งเขาก็คงระวังตัว ฉะนั้นในระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังจากเกิดเหตุและที่เด็กเขาคิดว่า ทำไมคณะไม่ทำอะไร อันนี้ก็คงเป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อนกัน ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดอันนี้คงจะยาก เพราะว่า ในห้องน้ำเองเราก็ไม่ได้ติดกล้องอยู่แล้ว การที่คนทำเขาจะถือของถือกล้องมา เขาก็คงจะไม่ได้ทำอย่างเปิดเผย แล้วอีกอย่างคือสถานที่นี้ก็มีคนเข้าคนออกตลอดเวลา”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: