ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นการนำเศษวัสดุเหลือใช้ ภายในชุมชน กะลามะพร้าว นำกลับมาใช้ มาร่วมกันทำในวัด เพื่อบูชาพระรัตนตรัย และช่วยลดโลกร้อน ที่ชาวบ้าน บ้านห้วยทรายคำ รวมตัวกันทำกว่า 2 ปี แล้ว
พระอธิการเอกสิทธิ์ กิตติคุตโต เจ้าอาวาสวัดป่าสามัคคีธรรม บ้านห้วยทรายคำ หมู่ 6 ต.นาแขม อ.เมืองเลย จ.เลย กล่าวว่า ความเป็นมากระทงกะลาลอยเคราะห์ ได้ยินชาวบ้านรอบบริเวณวัดป่าสามัคคีธรรม ทีนำกะลามะพร้าวมาประกอบอาหารเตรียมงานวัด จากนี้นชาวบ้านก็ไปเผาไฟ ทิ้งจึงเกิดความเสียดาย จึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่าควรนำของวัสดุเหลือใช้ดูไร้ค่านั้นมาใช้ประโยชน์ และเห็นเศษผึ้งที่วางกองอยู่หลังจากที่แห่ต้นเทียนและต้นปราสาทผึ้งออกพรรษาแล้ว จึงมีความคิดว่าจะทำกลีบบัวโดยใช้เศษผึ้งเหล่านี้มาต้มให้ละลาย แล้วนำมะละกอมาแกะสลักเป็นแม่พิมพ์กลีบบัว พร้อมกับนำกะลามะพร้าวที่เป็นขยะเหลือใช้ มาตัดตกแต่งให้เป็นรูปร่างกระทง แล้วนำมาประกอบเป็นกระทง แล้วนำฝ้ายดิบมาปั่นเป็นไส้ลักษณะคล้ายกับตีนกามาใส่ในกระทง พร้อมกันนั้นก็ได้เพิ่มพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาเข้าไปด้วย มีการเจริญพระพุทธมนต์สวดสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา อายุ ก่อนนำกระทงดังกล่าวไปลอย โดยได้กำหนดให้กระทงหนึ่งอันแทนอายุ 12 ปี จึงนำมาซึ่งกระทงกะลาลอยเคราะห์ที่ปรากฏอยู่วัดนี้ อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ผู้สูงอายุที่มาทำภารกิจที่วัดก็ได้มีกิจกรรมทำร่วมกัน ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
