ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ได้เกิดจากสถานการณ์ไฟป่าบนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งแต่เมื่อช่วงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง และเจ้าหน้าที่ไฟป่าภูกระดึง และอีกหลายๆ หน่วยงานในจังหวัดเลย พร้อมด้วยประชาชนในพื้นที่ภูกระดึง นักท่องเที่ยว ลูกหาบ ต่างระดมกำลังเร่งดับไฟ พร้อมกับทำแนวกันไฟ จนสถานการณ์ปัจจุบันไฟไหม้ป่าบนภูกระดึงได้ดับเรียบร้อยแล้ว จากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าภูกระดึงครั้งนี้ ได้สร้างความสูญเสียของระบบนิเวศน์ป่าภูกระดึง กว่า 3,400 ไร่ หรือประมาณ 1 ใน 10 ของพื้นที่ บนอุทยานแห่งชิตภูกระดึงที่เป็นแนวราบทั้งหมด
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 62 ทางจังหวัดเลย ได้ออกประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย เรื่อง เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย ในพื้นที่อำเภอภูกระดึง ด้วยได้เกิดสถานการณ์ไฟป่า บริเวณหลังแปเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึง อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 14.30 น พื้นที่ป่าสนได้รับความเสียหาย จำนวน 3,400 ไร่ ความเสียหายประมาณ 2,000,000 บาท (สองล้านบาทถ้วน) ซึ่งมีผลกระทบต่อสาธารณชน และก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายของประชาชน หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐ อันเป็นสาธารภัย ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 12.00 น.
ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรทาสารารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 ผู้อำนวยการจังหวัดเลย จึงประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย พ.ศ.2550 ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโตยเร็วต่อไป
โดยมีนายปัญญา วงค์ศรีแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ปฎิบัติหน้าที่ราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ผู้ลงนาม
