ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ชื่อโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เดินทางเข้าโรงรับจำนำและภาพหลังทราบว่า แอบไถ่ถอนเครื่องมือทำมาหากินให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน บอกถ้าคิดจะตอบแทนคุณขอให้ทำประโยชน์ให้สังคมกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงและชื่นชมอีกครั้งสำหรับ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ซึ่งก่อนหน้านี้สังคมชื่นชมการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายของผู้ว่าฯ คนนี้ด้วยการปั่นจักรยานไปทำงานและมักช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง หลังจาก นายรัชนาท วานิชสมบัติ ซึ่งเป็นเลขาหน้าห้องผู้ว่าฯ เลย ได้โพสต์เรื่องราวประทับใจในตัวของผู้บังคับบัญชาที่เข้าโรงรับจำนำเพื่อไปไถ่ถอนทรัพย์ให้ประชาชนที่เดือนร้อนโดยไม่แสดงตัว
นายรัชนาท เล่าว่า สายๆวันนี้ (27 เม.ย.) พี่จะไปโรงรับจำนำแป๊บนึงนะ ซึ่งหลังสิ้นประโยคของผู้ว่า ทำให้ตนอดคิดไม่ได้ว่า คนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดจะไปโรงรับจำนำทำไม? หรือว่าจะเอาของไปจำนำ
ฉะนั้นเพื่อให้คลี่คลายความสงสัย จึงขออนุญาตท่านไปด้วย พอไปถึงผู้ว่าฯ ก็ขออนุญาตพบผู้จัดการโรงรับจำนำเทศบาลเมืองเลย ตนก็นั่งฟังอยู่ห่างๆ และจับใจความได้ว่า ผู้ว่าฯจะมาไถ่ของที่จำนำไว้ และพอนั่งฟังต่อจึงรู้ว่า ผู้ว่าฯมาขอไถ่ของจำนำที่เป็นของประชาชนทั่วไป แต่ไม่ได้ไถ่หมดทั้งโรงรับจำนำ ผู้ว่าฯเลือกไถ่ของรับจำนำที่เป็นอุปกรณ์ประกอบอาชีพ เช่น สว่านไฟฟ้า หินเจีย และอุปกรณ์ดำรงชีพ เช่น หม้อหุงข้าว
ข่าวน่าสนใจ:
- สุดยอดงานกฐินบุญต่อชีวิตคน พระอาจารย์เขียวทอดกฐินสามัคคีจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินและอุปกรณ์ทางการแพทย์มุลค่ากว่า5ล้านบาท
- กลุ่มศึกษากลุ่มชลประทานลงพื้นที่ ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยชัน จ.ปราจีนบุรี
- ‘นครพนม’ เดินหน้าขับเคลื่อน ‘นครพนมโมเดล’ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ประชาชนมีความสุขที่สุด
- "ลุงโทนี" ถูกตัดสิทธิ์ฯ เหตุไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง อบต.ท่าพล
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ให้เหตุผลว่า มาไถ่คืนให้เจ้าของนั่นแหละ ให้เจ้าของอุปกรณ์เหล่านี้ได้นำไปทำมาหากินได้เลี้ยงชีพต่อไป โดยให้ผู้จัดการโรงรับจำนำช่วยเป็นธุระติดต่อผู้ที่ผู้ว่าฯ ไถ่ทรัพย์ให้นั้น ให้มารับโดยให้เอาถุงใหญ่ๆมาด้วย เพราะผู้ว่าฯฝากข้าวสาร ไข่ไก่ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ด้วย
และในตอนท้ายก่อนกลับ ผู้ว่าฯเลย ทิ้งท้ายด้วยว่า “ไม่ต้องบอกพี่น้องประชาชนนะว่าใครเป็นคนไถ่ของให้ แต่ให้บอกว่า หากจะตอบแทนคนไถ่ของให้ ก็ให้ไปทำประโยชน์ให้กับสังคมแบบไหนก็ได้ที่ถนัด หรือถ้าวันหนึ่งลืมตาอ้าปากได้แล้ว ก็คืนค่าไถ่ของได้โดย โอนเงินเข้าบัญชีโรงพยาบาลเลย สมทบทุนสร้างตึก 10 ชั้นแทน”
ล่าสุด วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย นางบุศรา ชัยจันทร์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย ได้แจ้งมายังผู้สื่อข่าวว่า เงินก้อนสุดท้าย ก่อนที่ผู้ว่าจะย้ายไปจังหวัดอื่น ซึ่งสิ้นค้า ที่ประชาชนเอามาจำนำ ทั้ง อุปกรณ์ เครื่องมือทำมาหากิน แม้กระทั่ง โน็ตบุ๊ค ของเด็กนักเรียน นักศึกษา ที่เอามาจำนำไว้ ก็ไถ่ไปหมดแล้ว ก็เหลือ เครื่องคูโบต้า ที่หางตั๋วที่มาต่อดอกยาวเป็นหางเว่า ผู้ว่าได้ตกลงไถ่คืนให้ ที่จำนำมานานกว่า 15 ปี ด้วยจำนวนเงิน 6,000 บาท
นายสวัสดิ์ บรรพต อายุ 62 ปี ชาวบ้านหนองหญ้าไซ ตำบลนาดินดำ อำเภอเมือง จังหวัดเลย เปิดเผยว่า ตนเอาเครื่องคูโบต้ามาจำนำไว้ตั้งแต่ปี 2548 ในราคา 6,000 บาท เพื่อนำเงินไปส่งลูกเรียน ที่บ้านยากจนหลังจากนั้นมา ก็ตัดดอกมาตลอด เดือนละ 80 บาท เป็นระยะเวลากว่า 15 ปี เพราะตนไม่มีเงินมาไถ่ถอน ตอนทำนา ก็ต้องจ้าง ดีใจมากที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ไถ่คืนให้ ตั้งแต่จำนำมา ลูกก็เรียนจบกันหมดแล้ว แต่จบ ม.3 เท่านั้น เพราะไม่มีเงินส่งเรียนต่อ จนตอนนี้ลูก อายุ 25 ปี แล้ว
นางบุศรา ชัยจันทร์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย เปิดเผยว่า หลังจากที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้นำเงินมาฝากไว้ เพื่อไถ่ถอน เครื่องมือ การเกษตรให้ชาวบ้าน ตนก็หาๆ ดูรายชื่อ ไถ่ให้จน ครบ 154 คนแล้ว แล้วก็ตกใจว่า ทำไมหากตั๋วที่ลูกค้ามาตัดดอกมันยาวเป็นหางว่าวเลย ก็ดู จึงรู้ว่า ลูกค้ามาเครื่องรถคูโบต้า มาจำนำไว้ตั้งแต่ ปี 2548 ซึ่งระยะเวลานานพอสมควร 15 ปี ด้วยจำนวนเงิน 6,000 บาท แต่ดูรายการที่มาต่อดอกแล้ว เป็นลูกค้าชั้นดี ตนจึงได้สอบถามไปยังท่านผู้ว่า ท่านก็ตอบกลับมาว่า ไถ่คืนชาวบ้านไปเถอะ ของทำมาหากิน จำนำไว้นานแล้ว ตนจึงได้โทรแจ้งไปยังลูกค้าให้มารับ พร้อมกันนี้ ลูกค้าที่มาตอบตกลงมารับ ดีใจมาก พร้อมกับนำผ้าขอม้า มาฝากให้กับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: