ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2563 ที่ภูเรือคีรี รีสอร์ท อ.ภูเรือ จ.เลย พรรคเพื่อประชาชน จัดประชุมการก่อตั้งพรรค โดยมีสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุมกว่า 380 คน ร่วมประชุม โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญคือการเลือกหัวหน้าพรรค และทีมบริหารพรรค บรรยากาศคึกคัก
โดยที่ประชุมได้มีมติเลือกนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย 21 สมัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นหัวหน้าพรรคคน โดยมีนายแพทย์วิชัย ชัยจิตวณิชกุล นายสานิต ว่องสัธนพงษ์ และนายยุทธภัณฑ์ ปักกุลนันท์ เป็นรองหัวหน้าพรรค นายบุญทา ชัยเลิศ เป็นเลขาธิการพรรค นายวันชัย บุษบา เป็นรองเลขาธิการพรรค นายเดชาวัต คงคาน้อย เป็นนายทะเบียนพรรค นางวิยะดา ยศปัญญา เป็นเหรัญญิก และนายอุทิศ พิมพลีชัย เป็นโฆษกพรรคโดยมีที่ทำการพรรคอยู่ภูเรือคีรี รีสอร์ท อ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งจะได้ยื่นจดทะเบียนการตั้งพรรคต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อไป
ด้าน นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ตนเป็น ส.ส.มา 21 สมัย และเป็นรัฐมนตรีมา 2 กระทรวง สังกัดพรรคการเมืองหลายพรรค ทำให้ได้รู้ว่า นโยบายต่างๆที่จะทำเพื่อประชาชนที่วางไว้ ไม่ได้ดำเนินการตามที่ตั้งใจ เพราะต้องปฏิบัติตามมติพรรค ตนจึงได้หารือกับอดีต ส.ส.และอดีตรัฐมนตรีหลายคน และคนรุ่นใหม่ ที่มีแนวคิด อุดมการณ์เดียวกันออกมาตั้งพรรคเพื่อประชาชน นำนโยบายปฏิบัติได้จริงไปสู่พี่น้องประชาชน หลังจากที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก กกต.แล้ว จะมีการเดินสายไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน มีส่วนร่วมกำหนดนโยบายของพรรค
นายปรีชากล่าวอีกว่า นโยบายหลักของพรรคที่ตั้งไว้ คือปัญหาปากท้องที่น้องประชาชน จะทำอย่างไรให้อยู่ดีกินดี โดยเน้นที่การท่องเที่ยว และที่สำคัญคือการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ฝากความหวังไว้กับพรรคการเมืองแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง เพราะมีการแพร่ระบาดแทบจะทุกพื้นที่
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า การตั้งพรรคครั้งนี้ เป็นการรองรับหากพรรคพลังประชารัฐถูกยุบนั้น นายปรีชาปฏิเสธว่า ตนได้ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว เพราะเคยอยู่มาหลายพรรค ไม่สามารถนำนโยบายหรือความต้องการของประชาชนไปสู่รูปธรรมได้ จึงได้ออกมาตั้งพรรคเพื่อประชาชน เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดๆทั้งสิ้น
สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะมีขึ้นในปลายปีนี้ พรรคเพื่อประชาชนจะยังไม่ส่งผู้สมัครลงโดยตรง มีเป้าหมายชัดเจนที่สภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่ยอมรับว่า อาจมีผู้สมัครเข้ามาขอความช่วยเหลือ หรือปรึกษาหารือบ้าง ส่วนการตั้งเป้าจำนวนที่นั่งในสภานั้น ยังไม่สามารถรถระบุได้ แต่ต้องตั้งเป้าไว้สูงอยู่แล้ว โดยการทำงานหลังจากนี้ จะเดินสายหาผู้แทนพรรคของแต่ละจังหวัด ที่มีทั้งอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี และคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์ นำนโยบายของพรรคไปแก้ปัญหาให้กับประชาชนร่วมกัน แต่ต้องให้ประชาชนในแต่ละจังหวัดเป็นคนคัดเลือก สรรหาคนที่มีคุณภาพมาเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค นายปรีชากล่าว
