ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้อยทหารพรานที่ 2104 ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดขึ้นจากแม่น้ำโขง ในช่วงเวลาประมาณช่วงเย็น ถึงช่วงหัวค่ำของวันที่ 20 ก.พ. 64 จากนั้นผู้บังคับบัญชา และได้ประชุมวางแผนที่ ร้อย.ฉก.ทพ2104 ที่ประชุมตกลงจัดกำลังประจำจุดเสี่ยงที่ ได้รับแจ้งสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ปากชมและกำลังปกครองอำเภอปากชม ทำการเข้าจุดซุ่มในเวลา 21.30 น. ดักซุ่มอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 7-8 บ้านคกไผ่ ม.6 ต.ปากชม อ.ปากชม จว.เลย
เมื่อเวลาประมาณ 23.10 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ เสียงดังและดับเครื่องไหลรถมาจอดอยู่บริเวณริมถนนใกล้จุดที่ชุดจับกุมดักซุ่มอยู่ จากนั้นได้พบวัยรุ่นชาย 3 คนนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ คันดังกล่าว ต่อมาได้มีชายวัยรุ่นสองคนลงมาจากรถจักรยานยนต์ แล้วเดินลงมาใกล้กับตรงที่จุดซุ่ม โดยชายคนแรกหยุดอยู่ห่างจากริมถนนประมาณ 10 เมตร ส่วนชายอีกคนหนึ่งได้เดินลงมาอีกประมาณ 30 เมตร ริมแม่น้ำโขง โดยชุดจับกุมสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเนื่องจากเป็นคืนเดือนหงาย และได้ก้มหยิบกระเป๋าสะพายข้าง สีเขียว ขึ้นมาและกำลังจะเดินขึ้นไปเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารพราน ขอตรวจค้นตัวนายพลกฤตฯ ซึ่งนายพลกฤตฯ ยินยอมแต่โดยดีก่อนทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมายจึงได้ขอตรวจค้นภายในกระเป๋าสะพายที่นายพลกฤตฯ ถือขึ้นมา พบว่าภายในกระเป๋าสะพายข้างสีเขียว พบห่อกระดาษเทียนไขสีเหลืองพันด้วยเทปใส จำนวน 1 มัด ตรวจสอบพบห่อบรรจุถุงพลาสติกสีน้ำเงิน และสีชมพูปะปนกัน ตรวจสอบพบเป็น ยาบ้าจำนวนหนึ่ง ซึ่งนายพลกฤตฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวและของกลางมาที่ ร้อย.ฉก.ทพ.2014 เพื่อทำการขยายผลและนับของกลางโดยละเอียด ผลการนับของกลางโดยละเอียด ยาบ้าเม็ดสีแดงด้านหนึ่งมีตัวอักษร WY อีกด้านหนึ่งมีลักษณะผิวเรียบ จำนวน 1,910 เม็ด ยาบ้าเม็ดสีเขียวด้านหนึ่งมีตัวอักษร A อีกด้านหนึ่งมีตัวอักษร Y1 จำนวน 20 เม็ด รวมยาบ้า จำนวน 1,930 เม็ด จากนั้น นำตัวนายพลกฤตฯ พร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.ปากชม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
