ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้า สภ เมืองเลย พันตำรวจเอก ภุชงค์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย เดินทางเป็นประธานในพิธี ทำลายท่อไอเสียรถดัดแปลง กว่า 500 ท่อ ของเด็กแว้น และอาวุธปืนของกลาง ซึ่งมีจำนวนมาก โดยมีนักเรียนจาก โรงเรียนในเขตพื้นที่เทศบาลและรอบนอก เขามาเป็นสักขีพยานในการทำลายและสร้างการรับรู้การป้องปราม ไปส่งถึงนักเรียนที่เป็นเด็กแว้นตามโรงเรียนเป้าหมาย
พันตำรวจเอก ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร เมืองเลย กล่าวว่า การทำลายอาวุธปีนของกลางที่ศาลมีคำพิพากษาสั่งริบให้ตกเป็นของแผ่นดิน และ ท่อไอเสียรถดัดแปลงที่ผิดกฎหมาย ตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดเลยที่ 58 /2564 โดยให้สถานีตำรวจภูธรเมืองเลย ดำเนินการทำลายอาวุธปืนของกลาง ที่ศาลมีคำพิพากษาสั่งริบให้ตกเป็นของแผ่นดิน ประจำปี 2564 ด้วยเช่นกัน ซึ่งงานนี้มีการคัดแยกประเภทได้ ดังนี้ 1. อาวุธปืนแก๊ปสั้น จำนวน 76 กระบอก 2. อาวุธปีนแก๊ปยาว จำนวน 154 กระบอก 3. อาวุธปืนอัดลม (ไทยประดิษฐ์) อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนดัดแปลง) จำนวน 27 กระบอก 5. อาวุธปืนลูกซองยาว ไทยประดิษฐ์จำนวน 7 กระบอก รวมทั้งสิ้น จำนวน 281 กระบอก
ข่าวน่าสนใจ:
- ผู้ว่าตรังสั่งซ่อมด่วนหลังคาท่าเรือปากเมง หวั่นอันตรายนทท. กระทบภาพลักษณ์จว. ลั่นพร้อมออกเงินส่วนตัว 2.3 หมื่นค่าวัสดุ…
- พาณิชย์จังหวัดนครพนม ออกตรวจติดตามสถานการณ์การรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกนาปี
- ตรัง จี้ซ่อมด่วนก่อนปิดท่าเรือปากเมงทรุด กระเบื้องร่วง-โป๊ะพัง-รังแตนอาละวาด หวั่นนักท่องเที่ยวอันตรายถึงชีวิต
- กกต.อบจ.เพชรบูรณ์ สั่งเช็กเอกสารคล้ายประกาศรับรองผู้สมัครฯ หลุด หลัง"ลุงโทนี"โพสต์โชว์ก่อนลบทิ้ง
ทั้งนี้ สถานีตำรวจภูธรเมืองเลย ได้ดำเนินการทำลายอาวุธปีนและเครื่องกระสุนปืนของกลาง ตามขั้นตอน และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้ว และทำลายท่อไอเสียรถดัดแปลงเสียงดังที่ตรวจยึดมาโดยผิดกฎหมาย โดยก่อนนี้มีการร้องเรียนของประชาชน ในพื้นที่เขตเทศบาลจำนวนมาก และสร้างความเดือดร้อนรำคราญให้กับประชาชน ซึ่งตลอดเวลา 2 เดือน ทาง สภ เมืองเลย ได้เร่งกวดขันแร่งจับกุม จนได้ท่อเสียงดังอย่างที่เห็นชัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมคู่ขนานการให้ความรู้และการรณรงค์ในด้านต่างในโรงเรียนเป้าหมาย เพื่อลดความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน เกี่ยวกับเรื่องท่อเสี่ยงดังและด้านอาชญากรรมให้ลดน้อยลง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: