ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 64 ดร.สุภาวดี สำราญ อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ธนพล นาใจดี ร้อยเวร สภ.เมืองเลย หลังได้รับข้อความและโทรศัพท์ข่มขู่ จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างมีคนเอาชื่อของอาจารย์ไปกู้เงินแล้วไม่ยอมจ่ายหนี้ แก๊งคลอเซ็นเตอร์ให้อาจารย์ต้องชดใช้ทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย แถมข่มขู่ตลอดเวลา ทั้งๆคนกล่าวอ้างว่าเป็นคนกู้เงินไป เมื่อกล่าวชื่อไม่รู้จัก มาเห็นหน้าเมื่อตำรวจค้นประวัติกลายเป็นหมอนวดแผนโบราณ ที่เคยนวดเมื่อ 3-4 ปีก่อน
ดร.สุภาวดี สำราญ เผยว่า เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนได้รับข้อความทางโทรศัพท์ สินเชื่อ Money Pocket เนื่องจากคุณเป็นบุคคลอ้างอิงของคุณ นางประภาพร พิมพามา ในการกู้เงินสินเชื่อและเจ้าตัวนั้นเพิกเฉยต่อหนี้สิน ทำให้คุณต้องรับผิดชอบแทนเขา หรือรีบแจ้งเจ้าตัวให้ชำระสิ ตนได้รับก็เฉยๆเพราะว่า ตนไม่เคยค้ำประกันใคร และชื่อที่ระบุมาก็ไม่รู้จัก คิดว่าเป็นคงเป็นพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หว่านแหหวังมาตบทรัพย์ตนจึงเฉยๆ แต่ต่อมาช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการโทรเข้ามาพูดคุย ตนก็บอกว่าชื่อที่ระบุตนก็ไม่รู้จัก แต่เขาระบุมาอีกว่า ไม่รู้จักยังไงก็เขาชื่อและเบอร์โทรเป็นบุคคลอ้างอิงตอนมากู้เงิน จึงได้โทรศัพท์มาถูก และมาท้วงหนี้ได้ ตนก็งงไปใหญ่ เซ็นค้ำประกันก็ไม่เคย คนกู้แค่ให้เบอร์โทรก็กู้เงินได้แล้วเหรอ ในส่วนตนเองเป็นทั้งอาจารย์และหลายครั้งที่ถูกเชิญเป็นวิทยากรต่างๆทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด พออบรมเสร็จผู้เข้าร่วมอบรมมักจะขอเบอร์โทรตนก็ให้ไปจึงจำใครไม่ได้
จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็ทั้งโทรและข่มขู่ตลอดเวลา กลัวว่าชีวิตไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความและคิดว่า เคสแบบนี้คงมีหลายรายที่โดนแบบตนเอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามเบอร์โทรที่โทรมา หลังแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ได้ค้นชื่อที่เขาอ้างว่าเป็นคนกู้เงินเขาไป นางประภาพร พิมพามา ตนจึงจำได้ว่าเขาเป็นหมอนวดแผนโบราณ ตนเคยไปนวดเมื่อ 3-4 ปีมาแล้ว และก็ไม่เคยเจอกันเลย
ด้านเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นจะตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่โทรและส่งข้อความมาข่มขู่ให้ชดใช้หนี้ ว่าหมายเลขนี้ใครเป็นคนเปิดใช้ และใช้เครืออะไร เมื่อเข้าตรวจสอบก็จะได้รู้ว่าใครเป็นคนลงทะเบียนใช้เบอร์นี้ เมื่อทราบก็จะเป็นขบวนการการสืบสวนสอบสวนต่อไป
