ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถนนคนเดินเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย บรรยากาศที่เห็นเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ร้านค้า ขายของที่ระลึก ที่พัก โรงแรม เก็ตเฮ้าท์ ต่างพากันปิดร้านเงียบ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดไปทั่ว ส่งผลกระทบกับทุกคน ถนนคนเดินช่วงนี้ หากไม่มีการระบาดของโควิด-19 จะเป็นช่วงเริ่มของฤดูการท่องเที่ยว นักท่องทั่วจากทั่วสารทิศ ต่างแห่กันมาเดินชมบ้านไม้เก่า จับจ่ายซื้อของ เดินเล่นริมแม่น้ำโขง โดยเฉพาะวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ เป็นช่วงฤดูกอบโกย ของเหล่าบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ที่พัก ร้านอาหาร สร้างรายได้จำนวนมาก ให้กับอำเภอเชียงคาน ซึ่งต่างกับช่วงนี้ บรรยากาศเงียบเหงา ไร้ผู้คน จะมีเพียงชาวบ้าน ที่อยู่ในระแวกนี้
นางสาวกัลยา คงปิ่น ร้านงอยโขง ขายอาหารเช้า ซอย 9-10 เปิดเผยว่า ปกติช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก ยิ่งช่วงเสาร์ อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย ช่วงนี้ ร้านแต่ละร้านต้องปิดหมดเลยหากโควิดยืดยื้อไปอีก คงำบากแน่ เพราะหากไปประกอบอาชีพอื่นก็ไม่ได้ เพราะกระทบหมด รายได้ก็ไม่มี โควิดรอบนี้ หนักสุด กลางวันกลางคืน บรรยากาศเงียบเหงาแบบนี้ แม้กระทั้งคนในพื้นที่ ก็ไม่ค่อยออกจากบ้านกัน
ข่าวน่าสนใจ:
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- เพชรบูรณ์ - "ครอบครัวศรีประโค" บริจาคกระจกตาพ่อที่เสียชีวิต หวังช่วยให้ผู้อื่นกลับมามองเห็น
นายสมศักดิ์ ทั้งน้อย ร้านอาหาและที่พักระเบียง เปิดเผยว่า โควิดรอบนี้หนักสุด ซึ่งที่ร้านได้ปิดร้านปิดที่พักมาตั้งแต่หลังสงกรานต์เป็นต้นมา ก็ปิดยาวมาตลอด เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว และยิ่งหลังทางรัฐบาล ปิดแคมป์นงาน ยิ่งหนักเข้าไปอีก หากโควิคยืดเยื้อไปนานยิ่งกว่านี้ ก็คงต้องปรับเปลี่ยน จากร้านอาหาร ที่มีลูกน้องเยอะๆ ต้องลดจำนวน เอาแรงงานจากครอบครัวเข้ามาช่วยกันเยอะๆ เพื่อแบ่งเยาภาระ แต่ช่วงนี้ ไม่มีรายรับอะไรเลย เพราะมีอาชีพเดียว ใช้เงินเก่า ใกล้หมดแล้วด้วย หากไม่มีโควิด ช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก เพราะที่เชียงคานมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งสกายวอล์ค หาดนางคอย เช้าๆก็ชมทะเลหมอกภูทอก แต่นี่เงียบเลย รายรับไม่มี การเยียวยาของรัฐบาลก็ไม่ได้สักอย่าง
สำหรับสถานการณ์โควิด 19 จังหวัดเลยพบผู้ติดเชื้อจำนวน 33 ราย ทำให้ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 รวมสะสม จำนวน 472 ราย กำลังรักษาอยู่ 288 ราย รักษาหายแล้ว 182 ราย เสียชีวิตสะสม 1 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องติดตามอีกจำนวน 507 ราย โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 33 ราย โดยแบ่งเป็นผู้ที่ขอเดินทางกลับมารักษาต่อ 28 ราย และพบติดเชื้อนพื้นที่ 5 ราย แบ่งเป็ฯรายอำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเชียงคาน 8 ราย อำเภอปากชม 3 ราย อำเภอด่านซ้าย 1 ราย อำเภอนาแห้ว 1 ราย อำเภอท่าลี่ 3 ราย อำเภอวังสะพุง 2 ราย อำเภอภูกระดึง 3 ราย อำเภอภูหลวง 4 ราย อำเภอผาขาว 4 ราย อำเภอเอราวัณ 4 ราย
ขณะที่ทางจังหวัดยังยืนยันว่ามาตรการต่างมีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ บุคลากรและอุปกรณ์ พร้อมขอความร่วมมือทุกคนปฏิบัติตามมาตรการจังหวัด โดยเฉพาะการรายงานตัวผ่านช่องทางต่างๆ ที่จังหวัดกำหนด เพื่อลดการระบาด ซึ่งที่ผ่านผู้ที่เดินทางเข้ามาให้ความร่วมมือที่ดีส่งผลให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมีจำนวนลดลง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: