ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลางกลางจังหวัดเลย นายจีระศักดิ์ พิศชาติ แกนนำชาวบ้านบ้านนาเบี้ย ต.นาหอ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเลย โดยผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย ขอให้เร่งรัดการถอดถอนผู้ใหญ่บ้านนาเบี้ย ม.7 พร้อมกับรายชื่อชาวบ้านผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกินครึ่งขอให้ถอดถอนผู้ใหญ่บ้านออกไป ซึ่งแนบพร้อมกับหนังสือร้องเรียน
จากกรณีชาวบ้านในอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ไม่พอใจผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งได้แจ้งความจับรถแบคโฮ ของ อบจ.เลย ขณะกำลังจะไปขุดสระให้ชาวบ้าน ไว้กักเก็บน้ำเพื่อทำการเกษตร ซึ่งเป็นโครงการของ อบจ.นำเครื่องจักรไปขุดสระ โดยให้ชาวบ้านออกค่าน้ำมัน ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ต้องการสระน้ำไว้ทำการเกษตรในพื้นที่ตนเอง ต่างหมดหวัง เนื่องจากล่าสุด ทาง อบจ.เองนั้น หลังถูกผู้ใหญ่บ้านคนนี้แจ้งจับ ก็ได้ยกเลิกโครงการชั่วคราวไปก่อน และย้ายเครื่องจักรไปทำตำบลอื่นแทน ดังนั้น ชาวบ้านจึงรวมตัวและลงชื่อขอให้ถอดถอด รวมทั้งยื่นหนังสือของให้ อบจ.กลับมาทำโครงการใหม่ให้ชาวบ้าน อีกครั้ง
ข่าวน่าสนใจ:
- โหดเหี้ยม!หนุ่มถูกมีดฟันยับดับกลางถนน คาดทะเลาะในวงเหล้า
- เพชรบูรณ์ - "ครอบครัวศรีประโค" บริจาคกระจกตาพ่อที่เสียชีวิต หวังช่วยให้ผู้อื่นกลับมามองเห็น
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
- หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน ตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ
นายจีระศักดิ์ พิศชาติ แกนนำชาวบ้าน เผยว่า ตนและชาวบ้านนาเบี้ย ต.นาหอ ได้ยื่นหนังสือพร้อมกับรายชื่อของชาวบ้าน เพื่อยื่นถอดถอนขอให้ทางอำเภอด่านซ้ายได้พิจรณาทำการถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งก็มีหลายประเด็นที่ชาวบ้านไม่พอใจในการทำงาน เกิดความแตกแยกกันอย่างหนักในหมู่บ้าน ไม่ตอบสนองผลประโยชน์ของชาวบ้านด้วยกัน หลังจากยื่นหนังสือถึงนายอำเภอไปแล้ว ตนและชาวบ้านเห็นว่าล่าช้า จึงได้เดินทางมาจังหวัดขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เร่งรัดให้ขั้นตอนการทำงานให้เร็วขึ้นและชัดเจนมากขึ้นกว่านี้ เพราะว่าทางจังหวัดคงจะตรวจสอบเอกสาร รายชื่อ ได้รวดเร็วและส่งให้ทางอำเภอจัดการได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งรายชื่อที่ลงถอดถอนได้เกินครึ่ง ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่รายชื่อก็ยังไม่นิ่งยังจะมีเพิ่มอีกมาก กำลังทยอยเข้ามา ขณะในชุมชนหรือภายในหมู่บ้าน ต่างก็เขียนป้ายไล่ผู้ใหญ่บ้านติดกันในหน้าบ้านของตนเอง ตนเองเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านมาก่อน แต่ได้เกษียณออกมาแล้ว
ทั้งนี้ ความวุ่นวายดังกล่าว ได้สร้างความแตกแยก โดยคณะกรรมการหมู่บ้านก็พวกใครพวกมัน โครงการต่างๆ ของรัฐไม่ตอบสนองนำมาให้ชาวบ้านเสียโอกาสการพัฒนา โดยเฉพาะโครงการขุดสระของ อบจ. ที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ชาวบ้านเกือบทุกหลังคาเรือนมีอาชีพทำการเกษตร น้ำมีส่วนสำคัญที่สุดในการทำเกษตร แต่ได้ถูกขัดขวางกับผู้ใหญ่บ้านคนๆ นี้ ถึงแม้ว่าพื้นที่ทำกินในหมู่บ้านกว่า 90% อยู่ในเขตป่าสงวน แต่เราก็ทำมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายาย และสืบทอดกันมา ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ก็ทราบดี และได้ร่วมสำรวจและปักเขตให้ทำกินอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ขาดเพียงแต่ขาดเอกสิทธิ์และปัจจุบันชาวบ้านก็รู้และทราบว่าห้ามทุกคนบุกรุก เข้าในพื้นที่ป่า จากเขตที่กำหนดไว้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: