X

เลย แม่ติดคุก ลูกสาววัย 14 ถูกลุงแท้ๆ ข่มขืนนานกว่า 1 ปี พร้อมบังคับเสพยาบ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   นางอร (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ชาวตำบลเชียงคาน  อ.เชียงคาน  จ.เลย ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า นางสาวนุ่ม (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 15 ปี ถูกญาติที่มีศักดิ์เป็นลุงเขยข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้งเป็นเวลานานกว่า 1 ปี  ทราบเรื่องเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจสภ.เชียงคานแล้ว

 

นางอรเล่าว่า ตนเพิ่งพ้นโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปีครึ่งด้วยข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง โดยที่ไม่รู้ตัว  เพราะไปกับเพื่อน เพื่อนถูกจับ จึงโดนคดีไปด้วย  เพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งตนมีลูก 3 คน คนโตเป็นชายอายุ 21 ปี  กำลังเป็นทหารกองประจำการ(ทหารเกณฑ์) ลูกสาวคนกลาง อายุ 15 ปี กำลังเรียนอยู่ กศน. และลูกชายคนเล็ก อายุ 5 ปี  ส่วนสามีได้เลิกลา แยกทางกันไป 3 ปีแล้ว  โดยระหว่างที่ติดคุกอยู่นั้น ลูกสาวหรือนางสาวนุ่มอยู่บ้านกับน้องชาย  ฝากป้าและลุงที่อยู่บ้านใกล้กันช่วยดูแลให้  เมื่อพ้นโทษมาแล้ว ก็ได้กลับมาอยู่กับลูกทั้งสองคนที่บ้าน

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ช่วงกลางคืน ตนได้ออกไปทำธุระที่บ้านเพื่อน  โดยลูกสาวอยู่บ้านกับลูกชาย  ตนกลับมาถึงประมาณ 5 ทุ่ม ก็พบว่าประตูห้องลูกสาวเปิดไว้อย่างผิดสังเกต  จึงเข้าไปดู พบว่านายมงคล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี  ซึ่งเป็นลุงเขยหรือสามีของพี่สาว เข้ามาอยู่ในห้องของลูกสาว ส่วนลูกสาวอยู่ในห้องน้ำหลังบ้าน เห็นโทรศัพท์วางอยู่บนที่นอน และมีสายเข้าที่ระบุชื่อบนหน้าจอเป็นชื่อป้าหรือพี่สาว ตนก็รับสาย และได้ทราบว่าเป็นโทรศัพท์ของลุง ตนจึงได้เรียกป้าให้เข้ามา ขณะที่ป้ากำลังจะเดินเข้ามาในบ้าน นายมงคลที่นั่งซ่อนตัวอยู่หลังราวผ้า ก็วิ่งออกมาคว้าเอาโทรศัพท์จากมือของตนแล้ววิ่งออกไปนอกบ้าน

 

ตนจึงได้โทรเรียกน้องชายที่อยู่อีกหมู่บ้านมาช่วยดูเหตุการณ์ พร้อมพากันสอบถามจนนายมงคลยอมรับว่าได้กระทำชำเราลูกสาวของตนเพียง 1 ครั้ง หลังจากนั้น ตนก็พาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเชียงคาน  แพทย์ระบุว่า ลูกสาวถูกกระทำชำเราจริงแต่ไม่ใช่ครั้งเดียว  ตนจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจให้มาจับกุมนายมงคล ซึ่งตำรวจก็บอกว่าให้ใจเย็นๆ ตนได้สอบถามเค้นจากลูกสาว จนยอมรับว่า ถูกนายมงคลข่มขืนกระทำชำเรามาแล้วหลายครั้ง นับตั้งแต่ตนติดคุกได้ 1 เดือน ตั้งแต่ลูกสาวยังเป็นด.ญ.อายุ 14 ปี

 

หลังจากที่แจ้งความกับตำรวจแล้ว ตนก็พาลูกทั้งสองคนหนีไปอยู่ที่บ้านน้องชายที่ตำบลนาซ่าว อ.เชียงคาน เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย  เพราะนายมงคลข่มขู่เอาชีวิต ห้ามไปแจ้งความ ตอนนี้ยังไม่กล้ากลับไปอยู่บ้าน เพราะกลัวมาก นายมงคลมีอาชีพเก็บของเก่าขาย เป็นคนอารมณ์ร้าย มักเสพยาบ้าเป็นประจำ  จะกลับไปได้ก็ต่อเมื่อนายมงคลถูกจับ จึงอยากให้ทางตำรวจช่วยเร่งดำเนินการเรื่องนี้ด้วย นางอรกล่าว

ด้านนางสาวนุ่ม เปิดเผยว่า หลังจากที่แม่ติดคุกได้ 1 เดือน ตนอยู่บ้านกับน้องชาย มีป้าคอยดูแลเลี้ยงดู  นายมงคลหรือลุง ได้เข้ามาหาตนที่ห้องข่มขู่ให้ร่วมหลับนอนด้วย หากไม่ยอมทำตาม จะฆ่าให้ตาย ตนจึงต้องยอมมาโดยตลอด เพราะกลัว  และเป็นห่วงน้องชายด้วย  ครั้งสุดท้ายที่นายมงคลมาหาที่ห้อง ก่อนที่แม่จะมาทราบเรื่อง นายมงคลบังคับให้ตนเสพยาบ้า  ด้วยความกลัว ตนจึงต้องยอมทำตาม

ทั้งนี้  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกับนางอรและลูกสาว พบว่าในห้องของลูกสาว มีคราบน้ำอสุจิเปื้อนผ้าปูที่นอนอยู่หลายจุด  ส่วนนายมงคลไม่พบตัวอยู่ในบ้านที่อยู่ข้างกัน  พบเพียงนางสี (นามสมมุติ) ภรรยาของนายมงคล  โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่า นายมงคลเดินทางออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ไปตั้งสติอยู่บ้านญาติที่ต่างจังหวัด ยอมรับในความผิด  พร้อมเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา หากได้รับหมายเรียก ไม่หนีไหนแน่นนอน  ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามีไปทำอะไรกับหลานสาว  ความรู้สึกขณะนี้เสียใจมากที่สามีทำแบบนี้ และสงสารหลานด้วย.

 

 

 

 

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of อัมรินทร์ ชูฤทธิ์

อัมรินทร์ ชูฤทธิ์

ชมรมสื่อเสรีเลย อาคาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย (ข้างเทศบาล) อำเภอเมือง จังหวัดเลย