จากกรณีที่กลุ่มชาวบ้านและผู้ประกอบการค้าบริเวณบ้านเหมืองแพร่ ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย ได้รวมตัวชุมนุมยื่นหนังสือต่อปลัดอำเภอนาแห้ว เรียกร้องขอให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ถอนกำลังออกจากบริเวณจุดผ่อนปรนบ้านเหมืองแพร่ แนวพรมแดนแม่น้ำเหืองติดกับเมืองบ่อแตน แขวงไซยะบูลี สปป.ลาว โดยระบุเหตุผลว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มงวด และใช้วาจาไม่สุภาพ ดูถูกเหยียดหยามาชนชาวลาวที่ข้ามมาฝั่งไทย จนทำให้บรรยากาศการซื้อขายสิ่งของอุปโภค บริโภคบริเวณบ้านเหมืองแพร่ และพื้นที่ใกล้เคียงซบเซาลงอย่างมาก เพราะชาวลาวไม่กล้าข้ามมาฝั่งไทย
นอกจากนี้ กลุ่มชาวบ้านยังได้ยื่นข้อเรียกร้องทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาขยายระยะทางการเข้ามาของประชาชนชาวลาวจาก 500 เมตร เป็น 1 กิโลเมตร , ขอผ่อนผันให้แรงงานชาวลาวเข้ามารับจ้างทำการเกษตรได้ , ระบุสินค้าให้ชัดเจนว่าประเภทและชนิดใดห้ามนำเข้าหรือออกบ้าง , ขอให้จุดผ่อนปรนบ้านเหมืองแพร่เป็นแบบอย่างในด้านการท่องเที่ยว-วัฒนธรรมระหว่างชายแดนไทย-ลาว นั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 นายนที พรหมภักดี นายอำเภอนาแห้ว และ พ.อ.สุภัทร ชูตินันท์ ผู้บังคับกรมทหารพรานที่ 21 พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมทำความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นจากตัวประชาชนที่ยื่นข้อเรียกร้องดังกล่าว
ผู้บังคับกรมทหารพรานที่ 21 กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ได้ดำเนินการตามกฎหมาย และคำสั่งของผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งปัจจุบันภัยคุกคามประเทศชาติได้เปลี่ยนแปลงไป เจ้าหน้าที่ต้องดูแลด้านความมั่นคง ด้านยาเสพติด แรงงานต่างด้าว ปัญหาโรคระบาด และปัญหาด้านอื่นๆ โดยจุดผ่อนปรนแห่งนี้ ได้ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2562 ระบุข้อห้ามต่างๆไว้อย่างชัดเจน ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องดำเนินการตรวจตราการเข้าออกตามประกาศและกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
ตนก็เข้าใจดี ถึงขนบธรรมเนียมประเพณี ความสัมพันธ์แบบเครือญาติของชาวนาแห้วกับฝั่ง สปป.ลาว แต่จะมาละเมิดกฎหมายประเทศตัวเองไม่ได้ อย่างไรก็ตามบางครั้งการปฏิบัติหน้าที่ของทหารอาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ ตนก็พร้อมที่จะกำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุภาพมากขึ้น ที่ผ่านมา หากทำให้ประชาชนไม่พอใจ ก็ต้องขอโทษด้วย และหากตรวจสอบแล้วว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของตนไปเรียกรับผลประโยชน์ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตนก็จะสั่งลงโทษทันที แต่จากการสอบสวนแล้วไม่พบการกระทำความผิด จึงต้องขอความเห็นจากประชาชนด้วย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายและคำสั่งผู้บังคับบัญชา
ส่วนกรณีที่เรียกร้องให้เปลี่ยนตัวหัวหน้าชุดที่ดูแลจุดผ่อนปรนนั้น จากการตรวจสอบและพูดคุยกับทุกฝ่ายแล้ว ไม่พบว่ากระทำความผิดหรือบกพร่องในหน้าที่แต่อย่างใด เป็นความเข้าใจผิดของประชาชนเท่านั้น ซึ่งก็ได้ทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว พ.อ.สุภัทร กล่าว
ด้านนายอำเภอนาแห้วกล่าวว่า ข้อเรียกร้องของประชาชน บางส่วนตนก็ได้ส่งเรื่องไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว เช่น การเพิ่มระยะทางจาก 500 เมตร เป็น 1 กิโลเมตร การเปิดด่านเพิ่มเป็น 2 วัน นอกจากทุกวันพระตามประกาศเดิม หรือการจ้างแรงงานภาคเกษตรกรรม ขณะนี้บางเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทยแล้ว ส่วนรายการสินค้าชนิดใดบ้างที่จะข้ามแดนได้หรือไม่นั้น ตนได้ทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชจังหวัด เพื่อให้หน่วยงานราชการที่ดูแลด้านนี้ ระบุให้ชัดเจน ไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว ขณะยังไม่มีหนังสือตอบกลับมาแต่อย่างใด
นายอุทัย ทิพย์อุดม ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน กล่าวว่า หลังจากที่ประชาชนได้พูดคุยกับทางทหารและนายอำเภอ พร้อมด้วยหน่วยงานราชการต่างๆแล้ว ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น เข้าใจการทำหน้าที่ตามกฎหมายของทางราชการ และก็มีความคาดหวังว่า ข้อเรียกร้องบางส่วน จะได้รับการตอบสนองจากทางราชการ เพื่อให้เศรษฐกิจชายแดนแถบนี้กลับมาคึกคักเหมือนในอดีต.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: