เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 63 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณจุดตรวจขุนไวย์ เทศบาลนครยะลา ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างเขต อ.เมือง จ.ยะลา กับ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจ ได้ปิดกั้นเส้นทางเข้าเมือง ไม่อนุญาตให้รถที่มาจากจังหวัดปัตตานี วิ่งผ่านเข้าเขตเมืองยะลา หลังจากที่มีประกาศจังหวัดยะลา เรื่องระงับการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดยะลา ป้องการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยบรรยากาศที่จุดตรวจได้มีประชาชนจำนวนมากที่ไม่ทราบข่าวขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์เพื่อผ่านเข้ามายังตัวเมืองยะลา แต่ก็ไม่สามารถผ่านเข้าได้ตามประกาศดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจนายหนึ่งกล่าวว่า ปัญหาในขณะนี้คือการสื่อสารกับพี่น้องประชาชนมากกว่า ถ้าประชาชนรู้นโยบายของทางรัฐบาล หรือหน่วยงานราชการ ทางท่านผู้ว่า ขณะนี้ไม่สามารถผ่านเข้าเมืองได้ นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ ราชการ การขนส่งสินค้า ตามประกาศที่จำเป็นเท่านั้น นอกนั้นก็ต้องห้ามผ่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 จังหวัตยะลา ที่ 15/2563 เรื่อง ระงับการเดินทางเข้า – ออกจังหวัดยะลาของบุคคล โดยมีข้อความว่า เนื่องด้วยปัจจุบันจังหวัดยะลามีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ในหลายอำภอ และพบการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไปสู่ประชาชนวงกว้าง การควบคุมพื้นที่ที่มีปัจจัยเสียงต่อการแพร่ระบาดของโรค จังหวัดยะลาจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้มาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มขันเพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างๆที่มีความเสียงสูง ประกอบกับมติคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิต – 19 จังหวัตยะลา เห็นชอบให้ประกาศให้จังหวัดยะลา เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรดโควิต- 19 ทั้งพื้นที่ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลามีคำสั่งให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง นั้น
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22และมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พศ. 2558 (ฉบับที่ 1) ข้อ 1 การห้ามเข้าพื้นที่เสียง ข้อ 10 วรรคสอง และวรรคสามมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อย ข้อ 11 มาตรการป้องกันโรค ข้อ 13 คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา /ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดยะลา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 จังวัดยะลา จึงมีคำสั่ง ดังนี้
1.ห้ามประชาชนเดินทาง เข้า – ออก ข้ามเขตพื้นที่จังหวัดยะลา อันเนื่องมาจากป็นพื้นที่ ที่เสี่ยงต่อการติตต่อเชื้อโรคโควิด – 19 เวันแต่ เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การทำให้ปลอดภัย จากเชื้อโรค การป้องกันโรค การฆ่าเชื้อโรค การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภค บริโภค การไปรษณีย์ อุปกรณ์เครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการแพย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล และยานพาหนะของทางราชการ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทั้งนี้ ผู้ด้รับการยกเว้นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด
2. ห้ามผู้ที่เป็น หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติตต่ออันตราย หรือโรคระบาด เดินทาง เข้า – ออกหมู่บ้านหรือที่เอกเทศ สำหรับที่แยกกัน หรือกักกัน และหรือข้ามเขดขึ้นที่จังหวัดยะลา เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้ล่าช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิ์โต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการ ทางปกครอง พ.ศ 2539 หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ มีฐานความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ 2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและ หรือเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่กิน 2 ปี หรือ ปรับไม่กินสี่หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวน่าสนใจ:
- รมว.วธ. ยินดีกับ “หลานม่า”เข้ารอบชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 เป็น 1 ใน 15 เรื่องสุดท้าย
- สลด เจ็ทสกีชน นทท.จมทะเลหาย ศพโผล่กลางดึก หาดกะรน ต.กะรน จนท.เร่งสืบสวน
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: