พังงา- ศูนย์อุตุฯเตือนคลื่นลมแรงในทะเลอันดามัน คลื่นสูง 2-3 เมตรฝนตกหนักลมแรงหลายพื้นที่
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก แจ้งเตือนฉบับที่ 2 สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8-11 มิถุนายน 2561 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง ขณะที่หลายพื้นที่ในจังหวัดพังงามีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง สร้างความสัยหายแก่พืชผลทางการเกษตร อาคารสถานที่ และต้นไม้ริมข้างทาง
โดยบรรยากาศที่ชายหาดต่างๆในพื้นที่จังหวัดพังงา พบว่าในทะเลมีคลื่นลมแรงสูงกว่า 2 – 3 เมตร โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมต่างๆที่อยู่ติดริมชายหาดได้จัดชุดลาดตระเวนตามแนวชายหาด พร้อมติดตั้งธงแดงตลอดแนว เตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำทะเลโดยเด็ดขาด พร้อมจัดเรือท้องแบน และอุปกรณ์ห่วงยางช่วยชีวิตไว้ตามแนวชายหาด เพื่อป้องกันอันตรายกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ในช่วงที่มีคลื่นลมแรง นอกจากนี้เรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่จังหวัดพังงา กว่า 200 ลำ ก็ไม่สามารถออกทะเล เพื่อทำประมงได้ เนื่องจากคลื่นลมแรงจัดชาวประมงบอกว่าลักษณะคลื่นลมแบบนี้อาจทำให้เรือล่มได้ ส่วนเรือที่ใช้ทำประมงต้องลากเข้าไปจอดให้ไกลฝั่งเพื่อป้องกันคลื่นซัดเสียหาย
นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนของประเทศไทยแล้ว โดยปีนี้จะเริ่มต้นประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม 61 และจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม 61 เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินถล่มของจังหวัดพังงาในช่วงฤดูฝนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทางจังหวัดจึงได้ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและดินถล่มจังหวัดพังงา ได้ดำเนินการเตรียมพร้อมในการรองรับน้ำฝน เร่งขุดลอกท่อระบายน้ำกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำตามคู คลอง และแหล่งน้ำ พิจารณาติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยง เตรียมพร้อมอุปกรณ์เครื่องจักรต่างๆ พร้อมทั้งให้ทุกอำเภอแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ให้ติดตามข่าวสารจากกรมอุตุฯและทางจังหวัดตลอดเวลา ตามแนวทางของแผนเผชิญเหตุอุทกภัยของทุกหน่วยงาน เพื่อเฝ้าระวังแก้ไขปัญหาตลอดฤดูฝน หากเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ ให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการระดับอำเภอ และระดับท้องถิ่น ในการสั่งการระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร เครื่องจักร ในการออกให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์ไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา (กอปภ.จ.) โดยทันที เพื่อที่จะได้ประเมินสถานการณ์ต่อไป
