พังงา-รวมพลังร่วมปล่อยทุ่นดักขยะ ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เก็บขยะในทะเล ในวันทะเลโลก World Ocean Day ปี 2563
วันที่ 8 มิถุนายน 2563 ที่ท่าเทียบเรือ อบจ.พังงา บ้านท่าด่าน ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยนายนิธิวุฒิ ระวิวรรณ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พังงา นำผู้แทนองค์กรต่างๆร่วมปล่อยทุ่นดักขยะ(Boom) ในทะเล ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และปล่อยขบวนเรือเร็ว เรือประมงพื้นบ้านและเรือคายัค ออกเก็บขยะในทะเลอ่าวพังงา พร้อมกับเปิดงานวันทะเลโลก หรือ วันมหาสมุทรโลก (World Ocean Day) ประจำปี 2563 ภายใต้ธีม“Innovation for a Sustainable Ocean – นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของมหาสมุทร” โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลและชายฝั่ง อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีการมอบถุงยังชีพให้กับอาสาสมัครฯ และชมนิทรรศการด้านสิ่งแวดในทะเลอันดามัน
นายประถม รัสมี ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 เปิดเผยว่า งานวันทะเลโลกได้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 ที่เมืองริโร เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล โดยความร่วมมือของประชาคมโลก ได้กำหนดให้วันที่ 8 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันทะเลโลก หรือ วันมหาสมุทรโลก หรือ World Ocean Day ในปีนี้องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนด Them งานว่า “Innovation for a Sustainable Ocean นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของมหาสมุทร” เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงกระตุ้นจิตสำนึกให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อรักษาท้องทะเลและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้สมบูรณ์ สามารถใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน เป็นการเผยแพร่ความรู้ และรณรงค์ให้ประชาชนทั่วโลกผ่านเครือข่ายเกี่ยวกับวันทะเลโลก และเพื่อลดปริมาณขยะในทะเล ไม่ให้เกิดผลกระทบกับแหล่งทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นการกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนหันมาใส่ใจร่วมกันอนุรักษ์ท้องทะเลไทย ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและประชาชน แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการร่วมกันปกป้องรักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้คงความสมบรูณ์ตลอดไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นทรัพยากรที่สำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนทั้งประเทศ และทำรายได้ให้กับประเทศไทยปีละหลายล้านบาท ทั้งด้านการท่องเที่ยว การประมง การเกษตร แต่จากการใช้ประโยชน์ร่วมกันด้านต่างๆ ทำให้ทรัพยากรเกิดความเสื่อมโทรมลง ดังนั้นจะรอเพียงหน่วยงานราชการดูแลรักษาทรัพยากรให้คงอยู่ในสภาพสมบูรณ์เพียงฝ่ายเดียวคงเป็นไปได้ยาก ทุกคน ทุกภาคส่วนจำต้องเข้ามามีส่วนร่วมรักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ และประโยชน์อย่างยั่งยืน วันทะเลโลกจะมีความสำคัญอย่างแท้จริงได้ หากทุกคนร่วมมือร่วมใจช่วยกันดูแลและอนุรักษ์ท้องทะเล รวมไปถึงชายหาด ด้วยสองมือและหนึ่งใจของพวกเราทุกคน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: