พังงา-สุดเศร้าคุณพ่อร้องขอสะพานข้ามฟากเกาะคอเขา หลังลูกสาวตายเพราะไปโรงพยาบาลไม่ทัน
วันที่ 10 มีนาคม 2564 นายเสน่ห์ ชูราษฎร์ กำนัน ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมด้วยนายมนัส จาริการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านนอกนา ต.เกาะคอเขา นำผู้สื่อข่าวไปที่สำนักสงฆ์บ้านนอกนา ซึ่งมีงานบำเพ็ญกุศลศพของนางสาวอัจฉรา ถือแก้ว อายุ 29 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตขณะกำลังนำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่าจากโรคประจำตัว เป็นโรคหอบหืด เมื่อตอนใกล้รุ่งของวันที่3มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างความเสียใจกับพ่อแม่ ญาติๆและเพื่อนฝูงเป็นอย่างยิ่ง โดยทุกคนต่างก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่า หากชาวเกาะคอเขามีสะพานข้ามไปยังแผ่นดินใหญ่ คาดว่าผู้ตายจะต้องถึงมือแพทย์ให้การช่วยชีวิตไม่ตายอย่างแน่นอน แต่นี่ต้องตายระหว่างนำส่งโรงพยาบาลเพราะต้องใช้เวลาหาเรือข้ามฟากนานหลายนาทีและเป็นชั่วโมงในเวลากลางคืน ที่ผ่านมาชาวบ้านได้เรียกร้องให้ภาครัฐสร้างสะพานกันมานานกว่า 16ปี แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ทำให้มีหลายชีวิตทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต้องสูญเสียไปเพราะไปถึงโรงพยาบาลช้าแพทย์ช่วยชีวิตไม่ทัน
นายรังสี ถือแก้ว อายุ 55 ปี บิดาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกสาวเป็นโรคหืดหอบ ในคืนนั้นได้เกิดอากาศเย็นลงกะทันหัน ทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก จึงรีบโทรศัพท์แจ้ง 1669 แล้วพาขึ้นรถไปที่ท่าเรือข้ามฟากขึ้นรถกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่าใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแพทย์ก็สุดจะยื้อชีวิตลูกสาวไว้ได้ อยากวิงวอนให้ภาครัฐช่วยสร้างสะพานข้ามฝั่งเสียที ไม่อยากให้คนอื่นเกิดความสูญเสียเหมือนกันตนอีก
นายมนัส จาริการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านนอกนา ต.เกาะคอเขา เปิดเผยว่า ชาวเกาะคอเขาลำบากมาก โดยเฉพาะหน้ามรสุมบางวันจะข้ามไปแผ่นดินใหญ่ไม่ได้เลย เด็กนักเรียนเกือบ 10 คนจะไปโรงเรียนในตัวอำเภอก็ไปไม่ได้ ที่สำคัญคือคนเจ็บป่วยเวลาฉุกเฉินไปไม่ทันก็ตายมาหลายรายแล้ว โดยเฉพาะคนเป็นโรคหัวใจ โรคหอบหืด อยากให้ภาครัฐเวลาจะทำอะไรอย่ามองแต่จำนวนประชากร ต้องดูจากค่าของคนด้วย จริงๆแล้วคนร้อยคนถ้าตาย10 คนก็มีค่ามากกว่าค่าสะพานอีก ทั้งๆที่เกาะคอเขาเป็นพื้นที่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากทั้งด้านธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายด้านที่ทำให้ประชาชนชาวตำบลเกาะคอเขาเสียโอกาสจากการที่ไม่มีสะพานข้ามฟาก
