พังงา-ข่าวดี…ผู้ป่วยโควิด-19 หายป่วยได้กลับบ้านอีก 4 ราย แพทย์ให้กักตัวเองต่อที่บ้านอีก 14 วัน
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมแพทย์-พยาบาลตึกผู้ป่วยโควิด-19 โรงพยาบาลพังงา ร่วมมอบหน้ากากอนามัย ของที่ระลึกและคู่มือการปฏิบัติตัว ให้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 ราย ที่เป็นพ่อแม่ลูกกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อจากสามีของผู้ป่วยรายที่ 2 ที่เป็นผู้ป่วยยืนยันในจังหวัดภูเก็ต โดยผู้ป่วยทั้ง 3 รายเป็นผู้ป่วยรายที่ 7-8-9 ของจังหวัดพังงาได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลพังงาตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน จนปัจจุบันผลตรวจไม่พบเชื้อ ไม่มีอาการ หายป่วยและกลับไปพักฟื้นที่บ้านภายใต้ข้อปฏิบัติตนเองตามคำแนะนำของโรงพยาบาล ซึ่งทั้งหมดมีญาตินำรถยนต์กระบะมารับพร้อมให้ให้นั่งท้ายกระบะเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม เมื่อทั้งหมดกลับถึงบ้านในตำบลนบปริง จะมีเจ้าหน้าที่รพ.สต.นบปริงร่วมกับทีมประเมินสุขภาพจิต ผู้นำชุมชน อสม. ตำบลนบปริงคอยให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยและญาติในการปฏิบัติตัวเพิ่มเติม ขณะที่ผู้ป่วยรายที่4 ที่หายดีจะได้กลับบ้านในวันนี้ เป็นผู้ป่วยรายที่ 6 ของจังหวัดพังงา เป็นนักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดเชียงใหม่
นายแพทย์สุทธิเกียรติ เจริญศรี ตัวแทนทีมแพทย์ฯ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 มีอาการหลายรูปแบบ ทั้งไม่มีอาการเลย มีอาการเล็กน้อยเช่นไอ น้ำมูก เจ็บคอ จนถึงอาการปอดอักเสบและปอดบวม การรักษาก็จะต่างกันไป ในกลุ่มแรกที่มีอาการเล็กน้อยก็จะรักษาตามอาการ สังเกตอาการ ส่วนในกลุ่มที่ปอดอักเสบ จะให้ยาต้านไวรัสประมาณ 5-10 วัน ส่วนคนไข้ที่มีความเสี่ยงสูงก็จะแยกไปห้องความดันลบ ดูแลต่างหาก ในการรับผู้ป่วยเข้ามาในโรงพยาบาลนั้น จะรักษาดูอาการอย่างต่ำ 10 วัน เมื่ออาการปกติ ตรวจไม่พบเชื้อ ก็สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ และแนะนำให้กักตัวเองต่อที่บ้านอีก 14 วัน
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- โครงการวิลล่าหรูเกาะสมุยฝืนคำสั่งรื้อถอนอาคาร ยังปล่อยให้ต่างชาติเช่าวิลล่า
- กฟผ.แม่เมาะ มอบความสุข สไตล์บาหลี อินโดนีเซีย ในงานฤดูหนาวและของดีนครลำปาง
- ขอนแก่นเข้มต่อเนื่อง!!เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด รวบคู่รักนักค้ายา หลังฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: