X

ดราม่า…งานสานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องภูเก็ต-พังงา งานจบคนวิจารณ์ไม่จบ เหตุภูเก็ตจัดงานฝั่งเดียว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากเหตุการณ์ที่ อบจ.ภูเก็ตจัดงานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (ภูเก็ต – พังงา) โดยจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22 – 24 เมษายน ที่ผ่านมา ที่สะพานสารสิน ฝั่งท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต โดยภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายอาหารทะเลสด ๆ และของดีเมืองถลาง จำนวนกว่า 40 ร้านค้า มีการจัดอุโมงค์ไฟ ยาว 30 เมตร พร้อมกับบอลลูนจำลองที่มีสีสันสวยงาม การแสดง Mini Air Balloon ส่วนบนเวทีมีการแสดงเพื่อสร้างความบันเทิงและความสนุกสนาน การแสดงคอนเสิร์ตทุกคืน ซึ่งพบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ในสังคมออนไลน์ในจังหวัดพังงา ได้มีการโพสต์แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นานา จนเป็นประเด็นดราม่า ตั้งแต่เริ่มงานวันแรก จนกระทั่งงานจบและถึงวันนี้ โดยวิจารณ์ในประเด็นหลักๆว่าชื่องาน “สัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (ภูเก็ต – พังงา)” แต่ไม่มีกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดพังงาเลย งานก็จัดบนสะพานสารสินฝั่งจังหวัดภูเก็ตมาถึงอาคารชมวิวกลางสะพานเท่านั้น ในขณะที่คนที่จะเข้าเที่ยวชมงานเดินบนสะพานสารสินมาจากฝั่งจังหวัดพังงา ไม่ได้มีการขึงเชือกกั้นไว้ 2 ชั้น และมีเจ้าหน้าที่ อส.ไม่อนุญาตให้เดินข้ามไปฝั่งภูเก็ต บอกว่าจะเที่ยวชมงานต้องไปเข้ามาจากฝั่งจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น ซึ่งได้สร้างความสงสัยงงงวยให้กับชาวจังหวัดพังงาเป็นอย่างมาก ขณะที่นายพีระ เพชรพาณิชย์ นักธุรกิจชื่อดังในจังหวัดพังงา ได้โพสต์ภาพสะพานสารสิน ที่ฝั่งภูเก็ตมีแสงสว่างสีสันสวยงาม ส่วนฝ่ายพังงามืดสนิท พร้อมกับวิจารณ์ว่า

“ความไม่มีกึ๋นของผู้บริหารท้องถิ่นทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งผู้บริหาร อบจ.ภูเก็ต และ อบจ.พังงา ตกลงจะจัดงาน “สานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง” ที่สะพานสารสิน ประชาชน 2 ฝั่งล่วงรู้ ต่างตื่นเต้นยินดี ดีใจ มีความหวัง สุขสันต์ เบิกบาน ต่อมา อบจ.ภูเก็ต มีงบประมาณการจัด แต่ อบจ.พังงาอ้างว่าของบไม่ได้ อบจ.ภูเก็ตจึงจัดงานฝ่ายเดียว เพียงครึ่งสะพาน อย่างที่เห็น ใครเห็นก็ขำ ถ้าประเมินแล้ว ไม่พร้อมที่จัดงานร่วมกันได้ ก็ควรหาโอกาสชี้แจง ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทราบก่อน จะได้ไม่ทำให้อารมณ์ ของประชาชน 2 ฝั่ง มีความแตกต่างกันไป”

“พื้นที่จัดงานบนสะพานสารสิน ฝั่ง อบจ.ภูเก็ต แสงสีเสียง งดงามเพียงครึ่งสะพาน แต่ผู้บริหารใจดำ ใช้เชือกกั้น และมี รปภ.ควบคุม ไม่อนุญาติให้ประชาชน ทางฝั่งพังงา ที่อุตส่าห์เดินผ่านความมืดบนสะพานฝั่งพังงา เข้าไปเที่ยวชมงานได้ ต้องข้ามสะพานศรีสุนทร เพื่อไปเดินเข้างาน ทางฝั่งภูเก็ต ไม่ได้คำนึงและเห็นความสำคัญ สนใจความเป็นบ้านพี่เมืองน้องดั่งเจตนารมณ์เลย จะอ้างว่ามันเป็นหลังเวที ผมว่าฟังดูไม่มีเหตุผลเพียงพอ ถ้าไม่มีวิธีบริหารงานภายใต้คอนเซปท์ บ้านพี่เมืองน้อง ก็ไม่ควรรีบร้อนจัดนะครับ”

“ผู้บริหาร อบจ.พังงา ก็จะมาอ้างว่าไม่ได้รับงบประมาณ คงจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว เมื่อเราตั้งใจทำงานให้ประชาชนแล้ว มันต้องมีวิธีพลิกแพลงจัดงานร่วมตามเจตนารมณ์ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราไม่มีเงิน เราก็ไม่จำเป็นต้องมีแสงสีเสียงดั่งภูเก็ตเขาก็ได้ เราขอความร่วมมือจากชุมชนท้องถิ่นมาร่วมจัดร้านขายของ พืชผักผลไม้ อาหารประจำถิ่น ขายความเป็นวิถีชุมชน ขายอัตลักษณ์พังงา ขายวัฒนธรรม ขายท่องเที่ยว ฯลฯ”

“ซึ่งในพังงาเรามีของดีอยู่มากมายก่ายกอง ผมเชื่อว่ามีประชาชน มีเอกชนที่พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณราชการเลยซักบาทด้วยซ้ำหรือว่าท่านผู้บริหารไม่มีเพื่อน ไม่มีมหามิตรที่จะให้ความร่วมมือ ให้ความช่วยเหลือบ้างเลยเหรอ คงต้องทบทวนนะครับ ถ้าชนชั้นนำ ผู้บริหารท้องถิ่น ทั้ง 2 ฝั่ง ไม่สามารถผนึกกำลังเป็นบ้านพี่เมืองน้องกัน ด้วยความเป็นเพื่อนที่มีความจริงใจต่อกันได้แล้ว จะสานสัมพันธ์ประชาชนผู้ตามทั้ง 2 ฝั่งให้เป็นบ้านพี่เมืองน้องได้อย่างไรครับ”

ซึ่งพบว่าได้มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย จนกลายเป็นกระแสดราม่าในพื้นที่จังหวัดพังงาตั้งแต่วันเริ่มงานจนงานจบไปแล้วก้ยังวิจารณ์กันอยู่

นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า โครงการนี้ตนเองได้ชักชวนนายก อบจ.พังงา จัดกิจกรรมร่วมกันระหว่าง2จังหวัด โดยได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งทั้ง 2 จังหวัดก็ได้ของบไปเหมือนกัน โดย อบจ.ภูเก็ตได้รับงบสนับสนุนมาจัดงานนี้ ขณะที่ อบจ.พังงา ทราบว่าถูกสำนักงบประมาณตัด ซึ่งไม่ทราบว่ามีสาเหตุมาจากอะไร แต่ก็ทราบมาว่าทาง อบจ.พังงาไม่ได้ของบสนับสนุนโครงการนี้โครงการเดียว ดังนั้นรายละเอียดต้องสอบถามกับทาง อบจ.พังงา ในส่วนของ อบจ.ภูเก็ตได้ผู้รับจ้างจัดงานมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่จากสถานการณ์โควิด-19 จึงได้เลื่อนมาจัดในช่วงนี้ ในส่วนของการจัดการภายในงานนั้นเป็นเรื่องของฝ่ายจัด ซึ่งกำหนดให้เข้าออกงานได้ทางเดียวนั้นเพื่อความปลอดภัยของคนมาเที่ยวชมงาน

ขณะที่แหล่งข่าวใน อบจ.พังงา ได้เปิดเผยว่า ทางผู้บริหารซึ่งมีความใกล้ชิดกับรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประกาศจัดงานนี้ร่วมกับทาง อบจ.ภูเก็ต และจะจัดอย่างยิ่งใหญ่ ให้อยู่ในปฏิทินการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แต่ก็ไม่ได้ตั้งข้อบัญญัติใช้งบประมาณของ อบจ.ไว้ หวังจะได้รับเงินสนับสนุนจากส่วนกลางมาจัดงาน แต่ที่ผ่านมาส่วนกลางได้สนับสนุนงบประมาณมาจัดงานกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะยาวแล้ว ทำให้โครงการนี้เลยถูกตัดออกไป ในความเป็นจริงแล้วในเมื่อไม่มีงบประมาณที่จะจัดงานก็ควรจะจัดกิจกรรมอะไรเข้าไปร่วมกับทาง อบจ.ภูเก็ตเพื่อให้เข้ากับงานสานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of อโนทัย งานดี

อโนทัย งานดี

นักข่าวตัวเล็กๆในเมืองแห่งความสุข