พังงา-ชาวบ้านโวยกรมทางหลวงสร้างทาง4ช่องจราจร มีการปลูกหญ้าข้างแท่งคอนกรีตเกาะกลางถนนทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดพังงา ลงพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า เพื่อติดตาม รับฟังและแก้ไขปัญหาจากการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4 สายตะกั่วป่า- บางสัก (4 ช่องจราจร ระยะทาง 7.4 กม.) หลังจากมีชาวบ้านและผู้นำท้องที่ร้องเรียนว่าทมีการปลูกหญ้าข้างแท่งคอนกรีตบริเวณเกาะกลางถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น โดยมีผู้แทนแขวงทางหลวงพังงา ผู้แทนนายอำเภอตะกั่วป่า นายช่างควบคุมโครงการฯ ผู้รับจ้าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำในพื้นที่ ร่วมลงพื้นที่และหารือร่วมกัน
โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้เร่งรัดให้ดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญาภายในกรกฎาคม 2565 สำหรับบริเวณเกาะกลางที่มีการปลูกหญ้านั้น ซึ่งตามหลักวิชาการมีการศึกษาแล้วว่ามีความปลอดภัย แต่ประชาชนในพื้นที่ต้องการให้ก่อสร้างแบบคอนกรีต เนื่องจากสภาพภูมิอากาศของจังหวัดพังงา มีฝนตกเยอะกว่าพื้นที่อื่น จึงมีความเห็นร่วมกันว่าการก่อสร้างแบบคอนกรีตมีความเหมาะสมและปลอดภัยกว่าการปลูกหญ้า ให้ผู้รับจ้างและนายช่างควบคุมโครงการฯ ติดตั้งป้ายบอกให้ผู้ขับขี่ทราบว่าเป็น “พื้นถนนต่างประเภท” และติดตั้งสัญญาณไฟเป็นระยะ ๆ บริเวณจุดเริ่มต้น – จุดสุดท้ายที่มีการปลูกหญ้าบริเวณเกาะกลาง และให้ผู้รับจ้างดำเนินการแก้ไขบริเวณท่อระบายน้ำ คูระบายน้ำเพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วมเมื่อฝนตก ขณะที่นายช่างควบคุมโครงการ แจ้งว่าแบบถนนที่มีการปลูกหญ้าที่เกาะกลางถนนแบบนี้ไม่ได้มีแต่ถนนเส้นนี้ ทางกรมทางหลวง ได้มีการก่อสร้างมาแล้วหลายพื้นที่ ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะเป็นเพราะผู้ขับขี่มากกว่า เพราตรวจสอบแล้วพบว่าไม่พบร่องรอยบนพื้นปูหญ้าเกาะกลางถนน แต่หากในพื้นที่ต้องการให้แก้ไขเป็นคอนกรีต ก็ต้องขอแก้ไขไปยังส่วนกลาง
นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร กล่าวว่า เราไม่ปฏิเสธเรื่องของวิศวกรรมว่าพื้นหญ้ากับพื้นคอนกรีตมีความปลอดภัยเท่ากัน แต่ความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต้องการเป็นพื้นคอนกรีต ซึ่งสำนักงานก่อสร้างก็รับที่จะเสนอผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจเปลี่ยนจากพื้นหญ้าเป็นพื้นคอนกรีตแล้ว แต่สิ่งที่เราต้องแก้ปัญหาทันทีคือโครงการจะติดตั้งป้ายแล้วก็ไฟเตือน บอกว่าเป็นพื้นต่างประเภทเป็นหญ้าคอนกรีตเพื่อเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้ผู้ที่ใช้เส้นทางพลั้งเผลอขับลงไปแล้วก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น
นายเสน่ห์ เกตุแก้ว นายช่างควบคุมโครงการ เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดก็คือว่าตอนนี้มันมาร่วมงานอยู่ที่ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ถ้างานอยู่ที่ 40 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์เราสามารถที่จะแก้ไขทันด่วนได้เลย ตอนนี้ผมก็ต้องนำเสนอทางให้คณะกรรมการได้รับทราบเหตุผลที่มารายละเอียดต่างๆเพราะตอนนี้สรุปปริมาณงานและค่างานต่างๆนะครับเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับท่านรองผู้ว่าแกก็มาให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆผมจะได้นำเสนอบันทึกการประชุมเพื่อให้ทางหน่วยเหนือ เพื่อผู้มีอำนาจจะได้สั่งช่วยแก้ไข วันนี้ก็ขอขอบคุณท่านผู้มีเกียรติและผู้นำชุมชนต่างๆที่โอกาสได้ชี้แจง
