พังงา-ตำรวจพังงาโชว์ฝีมือแกะรอยตามรวบคนร้ายกระชากสร้อยคอคุณยายตกเก้าอี้ หัวกระแทกพื้น ที่ตลาดทุ่งมะพร้าว
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2565 เวลา 15.25 น. ขณะที่ นางสัญญา ยกเชื้อ อายุ 74 ปี นั่งอยู่ที่ร้านกาแฟริมถนน หน้าบ้านเลขที่ 49 ม.1 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีคนร้ายเป็นชายไทยอายุประมาณ 35-40 ปี สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน จอดรถริมถนน เข้ามาทางด้านหลังผู้เสียหาย และเรียกผู้เสียหายว่า “ยาย” เมื่อผู้เสียหายหันไปดู คนร้ายก็กระชากสร้อยคอนากของผู้เสียหาย โดยดึงสร้อยเพียง 1 ครั้ง สร้อยคอก็ขาดหลุดติดมือของคนร้ายไป ส่วนผู้เสียหายตกจากเก้าอี้หัวทิ่มลงพื้น จากนั้นคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางบ้านในตลาดทุ่งมะพร้าว ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณเท้า และข้อมือมีอาการปวดเมื่อย ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปประกอบด้วย สร้อยคอนากน้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น ราคา 15,000 บาท พระเครื่อง 3 องค์ (รวมมูลค่าทรัพย์สิน 25,500 บาท)
ล่าสุดเมื่อเวลา17.00 น.วันที่11 ตุลาคม 2565 ที่ สภ.ท้ายเหมือง พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พังงา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ สงพะโยม รอง ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.พังงา ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัวนายมงคล ปรีชฎา อายุ 36 ปี ชาว ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อมด้วยของกลาง พระเครื่อง3องค์ รถจักรยานยนต์ และชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่ตอนก่อเหตุ ขณะสร้อยคอนากผู้ต้องหาให้การว่านำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองพังงาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ได้เงินมา 14,000 บาท แล้วก็นำไปชำระหนี้หมดแล้ว ขณะที่ทางร้านทองได้แจ้งว่าได้ส่งไปหลอมที่โรงหลอมในพื้นที่ กทม. แล้ว โดยหลังจากเกิดเหตุทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงาและชุดสืบสวนสภ.ท้ายเหมือง ได้ลงพื้นที่ติดตามสืบสวนมาโดยตลอด โดยการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีซึ่งพบว่ารถคนร้ายหายไปในช่วงบ้านบกปุย ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง ซึ่งคาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง และในช่วงเที่ยงวันนี้เจ้าหน้าที่ได้พบรถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะตรงกันกับคันที่ใช้ก่อเหตุที่บริเวณข้างบ้านเลขที่ 54 ม.1 ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และได้พบ นายมงคล ปรีชฎา จากการสอบถาม นายมงคลฯ ก้ได้ยอมรับว่าตนเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ในวันเวลาที่เกิดเหตุจริง เพราะต้องการหาเงินมาใช้หนี้หลังจากตกงานจากสถานการณ์โควิด-19
ด้านนายรวยชัย กิตติพรหมวงศ์ ส.อบจ.พังงา เขตอำเภอท้ายเหมือง ซึ่งเป็นเจ้าของกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายตอนก่อเหตุไว้ได้ กล่าวว่า ตนและผู้เสียหายต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วย ที่ร่วมกันสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ในส่วนของสร้อยคอของผู้เสียหายที่ยังไม่ได้คืน เพราะทางร้านที่รับซื้ออ้างว่าส่งไปหลอมที่กรุงเทพฯแล้ว อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบว่าเข้าข่ายเป็นการรับซื้อของโจรหรือไม่ และอยากขอหลักฐานที่กล่าวอ้างว่าส่งไปหลอมแล้วด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: