พังงา-แม่สุดเศร้าเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม ลูกชายถูกทหารเรือจ่อยิง 5 นัดอยู่ห้องไอซียู หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ที่ศาลากลางจังหวัดพังงา นางดวงพร หุนตระกูล อายุ 51 ปี เจ้าของร้านอาหารดอกหญ้า อยู่ที่ทางเข้าฐานทัพเรือพังงา ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เข้าพบ นายนันทศักดิ์ บุนนาค ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ที่ ลูกชายชื่อนายกฤษดา กัณหา อายุ 32 ปี ถูก พันจ่าเอกยงยุทธ ไชยคง ทหารเรือสังกัดกองการขนส่ง ฐานทัพเรือพังงา ใช้อาวุธปืนจ่อยิง 5 นัด เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ลูกชายยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดในห้องไอ.ซี.ยู โรงพยาบาลตะกั่วป่า ซึ่งทางผู้ร้องเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องคดี และขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากอาการบาดเจ็บของลูกชาย ซึ่งคาดว่าหากไม่เสียชีวิตก็คงจะต้องเป็นอัมพาตติดเตียง โดยที่ผ่านมาไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานใด ขณะที่ทางผู้บังคับบัญชาของทหารที่ก่อเหตุก็เข้ามาเยี่ยมเพียงครั้งเดียว ส่วนด้านคดีนั้นทราบว่าพนักงานสอบสวน ยื่นคำขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 45 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในความผิดฐาน ”พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 พร้อมคัดค้านการประกันตัว ซึ่งได้ทราบว่าทางศาลทหารได้ให้ประกันตัวปล่อยตัวออกมาแล้ว
โดยทางนายนันทศักดิ์ บุนนาค ได้แจ้งว่าในเรื่องคดีนั้นก็เป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการทางศาลทหาร ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายนั้นทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา จะประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือต่อไป
นางดวงพร หุนตระกูล เปิดเผยว่า ในคืนที่เกิดเหตุขณะที่กำลังจะปิดร้าน ทางผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นทหารเรืออยู่ในฐานทัพเรือพังงา ได้เข้ามาที่ร้านพร้อมกับเพื่อนในสภาพเมามา และได้สั่งเบียร์ไปนั่งกิน ซึ่งทราบความว่าทางผู้ก่อเหตุได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนร่วมงานมาจากภายในฐานทัพเรือพังงา ขณะที่อยู่ภายในร้านได้มีการเดินไปมาและด่าโวยวายตลอดเวลา ทำให้ลูกชายที่เพิ่งมาช่วยงานอยู่ในร้านเข้าใจว่าด่าตนเอง จึงถามว่ามาด่าแม่ผมทำไม ทางฝ่ายผู้ก่อเหตุได้เข้าประชิดตัวพร้อมชักปืนพกจ่อยิง 4 นัดจนลูกชายล้มลง ผู้ก่อเหตุก็ยังยิงซ้ำอีก 1 นัด ก่อนจะหลบหนีกลับเข้าไปในฐานทัพเรือพังงา และทราบว่าหลังจากก่อเหตุ 2 ชั่วโมง ทางผู้บังคับบัญชาได้นำตัวผู้ก่อเหตุพร้อมอาวุธปืนเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง ขณะนี้เป็นทุกข์อย่างหนักกับอาการของลูกชาย เมื่อหมอโทรมาทุกครั้งก็จะต้องเตรียมใจ เนื่องจากลูกชายหยุดหายใจมาแล้ว 1ครั้ง และพร้อมที่จะจากไปตลอดเวลา ซึ่งขณะที่ร้องเรียนอยู่ก็มีโทรศัพท์จากหมอบอกว่าลูกชายหยุดหายใจอีกแล้วและหมอได้ช่วยชีวิตให้หัวใจกลับมาเต้นได้ปกติอีกครั้ง
ที่มาร้องวันนี้เพราะอยากจะได้ความเป็นธรรมซึ่งตอนนี้เรื่องมันเงียบอยู่ ทุกวันนี้ลูกก็อยู่ห้องไอซียูอาการก็แย่ทุกวันไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ก็เลยต้องการความเป็นธรรมหน่วยงานไหนจะช่วยเหลือลูกเราบ้าง เพราะว่าลูกเราไม่ได้ไปมีเรื่องกับเขา ช่วยงานอยู่ที่ร้านดีๆทหารเข้ามา แล้วก็มามีเรื่องกับลูกจ่อยิงลูกไปเฉยๆถึง5นัด โดยที่ทราบว่าผู้ก่อเหตุยิงกันมาจากข้างในฐานทัพเรือมาแล้ว จากนั้นก็มาระบายกับลูกเรา มันไม่ยุติธรรมต้องการร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมเพราะคุณหมอบอกมาแล้วว่าลูกจะพิการตลอดชีวิต ตอนนี้ก็ใช้เครื่องช่วยหายใจ เคลื่อนไหวได้แต่ศรีษะเท่านั้น อยากวิงวอนให้ทางกองทัพเรือแสดงความรับผิดชอบในฐานะที่ปล่อยให้ทหารเรือออกมาก่อเหตุทำร้ายประชาชน สิ่งที่อยากได้ความช่วยเหลือก็คือการเยียวยา เพราะว่าค่าใช้จ่ายในการดูแลคนเจ็บครอบครัวคนเจ็บ แล้วก็สภาพจิตใจที่แย่พราะเห็นสภาพลูกต้องนอนพิการโดยที่เขาอายุแค่ 32 ปีเท่านั้น ซึ่งเขามีลูกที่จะต้องดูแล แต่กลับต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้เป็นใครก็ทำใจไม่ได้
