พังงา- หน่วยพยัคฆ์ไพร สนธิกำลังบุกตรวจยึดสวนทุเรียนของนายทุนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาทุ่งคาโงก
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า พร้อมด้วย นายประวิทย์ ช่วยหมุด หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พง.1 (พังงา) นายอมรรัตน์ เกลี้ยงขำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่4 ต.ทุ่งคาโงก สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.12 สาขากระบี่ เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กก.5 บก.ปทส. ตำรวจตระเวนชายแดน425 ตะกั่วป่า และเจ้าหน้าที่กอ.รมน.จังหวัดพังงา เข้าตรวจสอบการบุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขาทุ่งคาโงก ม.4 บ้านบางมุด ต.ทุ่งคาโงก อ.เมืองพังงา จ.พังงา โดยได้ตรวจพบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาทุ่งคาโงก (ไม่พบผู้กระทำความผิด )จำนวน 2 แปลง จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ ประกอบด้วย แปลงที่ 1 พื้นที่ป่าเสียหาย เนื้อที่ 29-2-16 ไร่ พบของกลางเครื่องยนต์ดัดแปลง จำนวน 1 เครื่อง ถังน้ำขนาด 2,000 ลิตร จำนวน 1 ถัง บ้านพัก 2ชั้น สภาพยังก่อสร้างไม่เสร็จ 1 หลัง โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ได้ถูกบุกรุกสร้างเป็นสวนทุเรียน 528 ต้น อายุตั้งแต่ 1-4 ปี พร้อมกับปลูกปาล์มน้ำมัน 320 ต้น อายุประมาณ 3 ปี ซึ่งมีการปรับพื้นที่เป็นขั้นบันไดและวางระบบรดน้ำไว้เป็นอย่างดี เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบผู้แสดงตนเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครอง
แปลงที่2 พื้นที่ป่าเสียหาย เนื้อที่ 4-3-44 ไร่ พบว่ามีการบุกรุกแผ้วถางใหม่เข้าไปในเขตป่าสมบูรณ์ พบมีการปลูกต้นปาล์มน้ำมันอายุประมาณ1ปี จำนวน12ต้น กระจายอยู่ในแปลง ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีชาวบ้านในพื้นที่แจ้งว่าเป็นผู้ครอบครอง
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลาง ประเมินความเสียหาย พร้อมมอบหมายให้นายประวิทย์ ช่วยหมุด หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พง.1 (พังงา) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พงส.สภ.ทุ่งคาโงก เพื่อสอบสวนติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีในการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พศ. 2484 ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี ผู้ใดครอบครองป่าที่ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้นมาตรา 55 ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ฐานยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถางป่าไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 กระทำ หรือละเว้นการกระทำด้วยประการใด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลาย หรือทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายหรือเสียหายไปนั้น ตามมาตรา 26/4
