พังงา-อธิบดีกรมราชทัณฑ์เปิดเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตร ฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขัง คืนคนดีสู่สังคม
.เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 ที่บริเวณเรือนจำชั่วคราวบ้านกระโสม ม.1 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในพิธีเปิดเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตร เรือนจำชั่วคราวบ้านกระโสม ป่าในเทพนิยาย ป่าในจินตนาการ ป่าในตำนานขัดเกลาจิตใจผู้ต้องราชทัณฑ์ โดยมีนายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ร่วมกล่าวต้อนรับ มีนายธนายุต ศิวายพราหมณ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพังงา คณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ก่อนพิธีเปิดมีการแสดงรำมโนราห์ของผู้ต้องราชทัณฑ์หญิง ร่วมกันเปิดป้ายด้วยการรับน้ำจากมนุษย์ถ้ำเติมเข้าระบบกังหันน้ำเปิดป้าย จากนั้นรับมอบอาคารอเนกประสงค์ “พระอาจารย์เขียว”จากพระครูสุกิตติโสภณ วัดป่าพุทธอุทยานเฉลิมพระเกียรติในพระอุปถัมภ์ที่สนับสนุนการจัดสร้างวงเงิน 316,699 บาท ต่อด้วยเปิด “หับเผยคาเฟ่ บาย กระโสม” คาเฟ่อาหารเครื่องดื่มบรรยากาศภายในถ้ำพร้อมบรรยากาศป่าในเทพนิยาย
นายมิตรารุณห์ พรหมอินทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพังงา กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดพังงา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้มีนโยบายส่งเสริมให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศดำเนินการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยให้กับผู้ต้องขัง ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงส่งเสริมการฝึกทักษะวิชาชีพและสร้างโอกาสการมีงานทำภายหลังพ้นโทษ โดยการฝึกวิชาชีพพัฒนาฝีมือและส่งเสริมการทำงานให้แก่ผู้ต้องขัง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้มีความรู้ ความชำนาญ ปรับตัวกลับสู่สังคมได้ภายหลังพ้นโทษและไม่กระทำผิดซ้ำอีก โดยแบ่งความสุขออกเป็น สุขที่ได้ชิม จากบริการเครื่องดื่มอาหาร เบเกอรี่ “หับเผยคาเฟ่ by กระโสม” สุขที่ได้ใช้บริการ จากสถานีดูแล ล้าง อัด ฉีด รถยนต์ บริการคุณภาพมาตรฐาน สุขที่ได้ชื่นชม สวนแห่งความสุขผ่อนคลาย สวนสนุกและสัตว์เลี้ยงสวยงาม และเป็นศูนย์รวมศิลปะทางด้านงานฝีมือของผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มาวางจำหน่ายเพิ่มเติมอีกด้วย
นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ เปิดเผยว่า ต้องขอชื่นชมเรือนจำจังหวัดพังงา ที่ได้ดำเนินการตามมโยบายของกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ในครั้งนี้ เพราะนอกจาก จะเป็นการดำเนินการ ใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ตนรับผิดชอบ โดยการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้ประชาชน ได้เข้ามาเยี่ยมชม และศึกษาเรียนรู้ และยังถือว่า เป็นการนำนโยบายดังกล่าว มาสู่การปฏิบัติมุ่งเน้นการส่งเสริม การท่องเที่ยวในเรือนจำ และการฝึกวิชาชีพ ให้กับผู้ที่ใกล้พ้นโทษที่เข้าเกณฑ์การจ่ายออกทำงานภายนอกเรือนจำ ให้ได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยเป็นการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับกลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อจะเป็นการคืนคนดีกลับสู่สังคมต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: