X

“วันข้าวไร่ดอกข่า” เกษตรกรชาวบางทองร่วมสืบสานและอนุรักษ์ ข้าวไร่พันธุ์พื้นเมืองชื่อดังประจำ จ.พังงา

พังงา- “วันข้าวไร่ดอกข่า” เกษตรกรชาวบางร่วมสืบสานและอนุรักษ์ ข้าวไร่พันธุ์พื้นเมืองชื่อดังประจำ จ.พังงา

ที่แปลงข้าวไร่ดอกข่า ทางเข้าสำนักสงฆ์บางจันทร์ หมู่ที่ 2 ต.บางทอง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา  นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการสืบสานและอนุรักษ์ข้าวไร่ดอกข่าพันธุ์พื้นเมือง “วันข้าวไร่ดอกข่า” พร้อมร่วมลงแขกเก็บข้าวด้วยแกละซึ่งเป็นอุปกรณ์เก็บข้าวที่ใช้ในพื้นถิ่น โดยมีนางปาริชาต สุธาประดิษฐ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพังงา ประธานหอการค้าจังหวัดพังงา ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดพังงา ประธานกองทุนสวนยางบ้านบางทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางทอง หัวหน้าส่วนราชการ  แขกผู้มีเกียรติ และประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก

นายประภาส ขุนพิทักษ์ นายอำเภอท้ายเหมือง กล่าวว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อ ประชาสัมพันธ์ข้าวไร่ดอกข่า ซึ่งเป็นข้าวประจำถิ่นตำบลบางทอง อำเภอท้ายเหมือง ให้เป็นที่รู้จัก สืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การลงแขกเกี่ยวข้าว นวดข้าว เป็นต้น โดยกิจกรรมมีการแข่งขันเก็บข้าวด้วยแกละ การลงแขกเกี่ยวข้าว สาธิตการตำข้าวซ้อมมือ สาธิตการสีข้าวแบบโบราณ การโม่แป้งโบราณ นิทรรศการความเป็นมาของข้าวไร่ดอกข่า และกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์การเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนตำบลบางทอง โดยปีนี้จัดเป็นปีที่ 3 เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่า ในช่วงนี้ เป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวไร่ดอกข่าแล้วนั่นเอง

ข้าวไร่ดอกข่า เป็นข้าวเจ้าพันธุ์พื้นเมืองประจำถิ่นตำบลบางทอง ที่บรรพบุรุษได้เพาะปลูก คัดพันธุ์ และเก็บรักษาพันธุ์ ส่งต่อสู่รุ่นต่อรุ่นเป็นเวลานับร้อยปี  เนื่องจากถิ่นนี้สมัยก่อนการคมนาคมยากลำบาก การเดินทางไปซื้อข้าวในตลาดเป็นไปได้ยาก จึงต้องปลูกข้าวกินเอง แต่พื้นที่ก็ไม่ได้เป็นที่ลุ่มเหมาะกับการทำนา จึงต้องใช้พันธุ์ข้าวในที่ดอนปลูก  สมัยก่อนมีอยู่หลายสายพันธุ์ แต่ปัจจุบันจะมีเฉพาะข้าวไร่ดอกข่าเท่านั้น เพราะชาวบ้านนิยมรับประทาน  มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น คือ มีเม็ดสีน้ำตาลแดง ลักษณะยาวเรียว หุงขึ้นหมอ และมีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นใบเตย จึงเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน  สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านบางทอง จำกัด จึงได้ริเริ่มจัดทำ “ธนาคารเมล็ดพันธุ์ข้าวไร่ดอกข่า” เพื่อให้เกษตรกรสมาชิกที่อยู่ในพื้นที่ตำบลบางทอง ได้มีเมล็ดพันธุ์คุณภาพในการเพาะปลูก  ทั้งนี้สหกรณ์ยังได้รวบรวมผลผลิตของสมาชิก เพื่อการแปรรูปและจำหน่าย  ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกผู้ปลูกข้าวไร่ดอกข่า รวม 60 คน พื้นที่ปลูกรวม 200 ไร่ ผลผลิตโดยเฉลี่ย 250 กก/ไร่ ราคารับซื้อข้าวเปลือกจากสมาชิก 350 บาท/ถัง ราคาจำหน่ายข้าวสารแบบขัด 60 บาท/กก. แบบข้าวกล้อง 65 บาท/กก.

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of อโนทัย งานดี

อโนทัย งานดี

นักข่าวตัวเล็กๆในเมืองแห่งความสุข