พังงา – ตะลึง…พบชายปริศนาเดินเก็บขยะริมถนนใส่ถังขยะ ชาวบ้านคิดว่าคนบ้า เข้าสอบถามพบเป็นผู้พิพากษาอาวุโส
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนว่า ได้พบเห็นชายปริศนาเดินเก็บขยะริมถนน บริเวณสี่แยก รพช. และถนนสายเมืองพังงา-ทับปุด เขต ม.3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา อยู่เป็นประจำ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบและได้พบว่า มีชายสูงวัยนุ่งกางเกงสีดำ ใส่เสื้อสีฟ้า สวมหมวกสีน้ำตาล ในมือขวาถือที่คีบ มือซ้ายถือกระสอบ กำลังเดินเก็บขยะอยู่ริมถนนจริงๆจึงเดินติดตามขออนุญาตถ่ายภาพ และชวนพูดคุย
คุณลุงได้เดินเก็บขยะริมถนนสองข้างทางที่เป็นเหมือนประตูสู่เมืองพังงา จนสะอาดเรียบร้อย ก่อนจะนำไปทิ้งในถังขยะ และนำอุปกรณ์เก็บใส่ท้ายรถ ซึ่งพบว่าในท้ายรถยังมีที่คีบขยะและถุงสำหรับใส่ขยะอีกหลายขนาด และเมื่อได้สอบถามเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวก็รู้สึกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อทราบว่าชายปริศนาคนนี้ เป็นถึงผู้พิพากษาและให้โอกาสร่วมพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง
นายมวญ อ่อนศรี ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ตนเองได้ย้ายมาปฏิบัติราชการในจังหวัดพังงาเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว และเริ่มใช้เวลาเล็กน้อยช่วงพักเที่ยงออกเดินเก็บขยะริมถนนสองข้างทางบริเวณใกล้กับศาลฯและเห็นว่าประตูเข้าเมืองประตูออกเมืองทั้งสองข้างมีขยะอยู่สองข้างทางมาก คิดว่าถ้าเราเก็บให้สะอาดคนก็จะไม่กล้าทิ้ง ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าภาพที่จะเก็บขยะริมถนน ก็มีความสำนึกว่าเราในฐานะพลเมืองก็ทำไปก่อน วันไหนที่มีเจ้าภาพมาทำก็ต้องถอยมา
โดยกิจกรรมในด้านสาธารณะนั้นได้ทำมาตั้งแต่เป็นบัณฑิตอาสาของ ม.ธรรมศาสตร์ เมื่อมาทำงานแล้วก็มาทำเรื่อยมาโดยตลอด และเห็นว่าบ้าเราเป็นเมืองท่องเที่ยวมีการประชาสัมพันธ์ลงทุนเป็นพันๆล้าน ไปโฆษณาเพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ นักท่องเที่ยวไม่ได้ต้องการมาดูความเจริญเกี่ยวกับตึกรามบ้านช่อง แต่เค้ามาดูความเจริญเกี่ยวกับวัฒนธรรม ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ธรรมชาติ เพราะฉะนั้นถ้าเราต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทย ไม่ต้องลงทุนอะไรหรอกครับ เพียงแต่ว่าทำยังไง จัดการบริหารธรรมชาติให้มันสะอาดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก็พอ
ด้านนางปรานี ระวิวรรณ อายุ 73 ปี เจ้าของร้านขายของชำ บริเวณใกล้สี่แยก รพช.พังงา เปิดเผยว่า ได้เห็นผู้ชายคนนี้ขับรถมาจอดแล้วเดินเก็บขยะที่ริมถนนบริเวณนี้มานานแล้ว ตอนแรกตนเองและเพื่อนบ้านเข้าใจว่าอาจจะเป็นคนบ้า หรือคนสติไม่ดี แต่เมื่อเห็นเก็บขยะใส่ถุงแล้วนำมาทิ้งใส่ในถังขยะของอบต. อย่างเรียบร้อย เมื่อดูจากลักษณะการแต่งตัว และบุคลิกแล้วคิดว่าไม่น่าจะใช่เช่นกัน เลยคิดว่าอาจจะเป็นคนที่เกษียนอายุราชการแล้ว และเมื่อทราบว่าเป็นถึงผู้พิพากษา ก็รู้สึกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะคิดไม่ถึงว่าข้าราชการระดับสูงจะมีจิตอาสามาเดินเก็บขยะริมถนน
