พังงา – สุดตื่นเต้น…พบโลมาโหนกสีชมพู 2 ตัว ว่ายน้ำเล่นในอ่าวพังงา
เมื่อ วันที่ 11 มิถุนายน 2562 นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ได้รับแจ้งจากนายปกรณ์ วงศ์ตั้งหิ้น หน.หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ (ย่อย) เกาะห้อง ว่า ขณะที่ปฏิบัติงานประจำจุดเก็บค่าบริการฯ ได้พบ โลมา จำนวน 2 ตัว ออกมาว่ายน้ำหากินอวดโฉมให้นักเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา บริเวณเกาะห้อง ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา หมู่ที่ 8 บ้านอ่าวมะขาม ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งได้สร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาเที่ยวชมธรรมชาติในอ่าวพังงา
ข่าวน่าสนใจ:
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
- สนามเปิดตัวจังหวัดสระแก้ว "วิ่งเทรลไตรบูรพา ซีรีย์ 4 สนาม 3จังหวัดภาคตะวันออก"
- ร้อยเอ็ด...กบห.โหวดพิฆาตเข้าพบรักษาการพ่อเมืองร้อยเอ็ด ร่วมต้อนรับรัฐมนตรีประจำสำนักฯ เปิดงานเดิน-วิ่งการกุศล ณ อ่างธวัชชัย 30 พ.ย. 67
- จนท.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี รวบ 2 พรานป่าพร้อมอาวุธปืนครบมือ คาดเตรียมออกล่าสัตว์ป่า
นายศรายุทธ ตันเถียร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น่าจะเป็นโลมาหลังโหนกสีชมพู เป้นเพราะภายหลังจากที่ฝนตกหนักในพื้นที่มาสองสามวัน ซึ่งวันนี้ฝนหยุดตกท้องฟ้าปลอดโปร่ง น้ำทะเลอ่าวพังงามีความใสมาก ทำให้ปลาเล็กปลาน้อยออกมาอวดโฉมกันจำนวนมาก โลมาจึงออกมาหากิน ช่วงปีนี้ถือว่าอ่าวพังงามีความสมบูรณ์มาก จนมีโลมาเข้ามาแหวกว่ายหากินและพบเห็นเป็นครั้งที่สองในเดือนนี้
สำหรับโลมาโหนกสีชมพู เป็นโลมาชนิดหนึ่ง ในวงศ์โลมามหาสมุทร (Delphinidae)มีลักษณะทั่วไป คือ มีจงอยปากยาวโค้งเล็กน้อยที่เด่นชัดคือส่วนของฐานครีบหลังจะเป็นสันนูนสูงรองรับครีบหลังสีลำตัวจะมีการผันแปรต่างกันมาก ตัวเล็กจะมีสีจางจนเหมือนเผือก แม้บางตัวก็มีสีออกขาว หรืออย่างน้อยขาวในบางส่วน หรือสีชมพู แหล่งอาศัยอยู่นั้นมักจะมีป่าชายเลนอยู่ด้วยเสมอ แต่จะต้องอยู่ในบริเวณน้ำตื้นเท่านั้น มีอุปนิสัยอาศัยประจำที่หรือมีการย้ายที่อพยพน้อยมากและอาศัยไม่ห่างจากชายฝั่งเกินระยะ 1 กิโลเมตร จึงพบเห็นตัวได้โดยง่าย โดยมักจะพบเห็นตั้งแต่ตอนเช้า จะอยู่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ ว่ายน้ำช้า ประมาณ 4.8 กิโลเมตร/ชั่วโมง และจะดำน้ำประมาณ 40-60 วินาที ก่อนจะโผล่ขึ้นมาหายใจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: