พังงา – วงแตก…กำนัน นำทีมผู้ใหญ่บ้านบุกจับการพนันกลางงานวัดหลักแก่น อ.ท้ายเหมือง ห่างป้อมตำรวจแค่ 300 เมตร
กำนัน นำทีมผู้ใหญ่บ้านบุกจับการพนันกลางงานวัดชื่อดัง ห่างป้อมตำรวจแค่ 300 เมตร
พังงา -วงแตก…กำนัน นำทีมผู้ใหญ่บ้านบุกจับการพนันกลางงานวัดชื่อดัง ห่างป้อมตำรวจแค่ 300 เมตร เมื่อคืนวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 นางสาวอุมากร แพใหญ่ กำนันตำบลลำแก่น นายโกมล พราหมณ์แก้ว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 นายจุติ ปานรักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 นำกำลังสารวัตรกำนัน ชรบ.และ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กว่า 10 นาย บุกเข้าจับกุมบ่อนการพนันโปปั่น หมุนศรพาโชค ปาลูกโป่ง ปาเป้า บิงโก ที่ลักลอบเปิดเล่นภายในงานบวชสามเณรฤดูร้อน ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 10 คืน ที่วัดหลักแก่น ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งอยู่ห่างจากป้อมตำรวจลำแก่นประมาณ 300 เมตรเท่านั้น โดยขณะที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ได้มีกลุ่มนักพนันกำลังตั้งวงเล่นการพนันอยู่ และ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับวงแตก วิ่งหลบหนีกันไปคนละทิศคนละทาง ส่วนเจ้ามือขณะเห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุม ได้รีบเก็บเงินสดที่อยู่ในกระป๋องใส่ในกระเป๋าทันที เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายทรงฤทธิ์ โตสุนทร อายุ 33 ปี ที่รับเป็นเจ้ามือ มาดำเนินคดี จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าภายในวัด ยังมีร้านกว่า 10 ร้าน เปิดให้มีการเล่น ปาลูกโป่ง ปาเป้า บิงโก พนันยิงเป้า พนันปาขวด เพื่อแลกของรางวัล โดยมีสิ่งจูงใจที่มีทั้งตุ๊กตา เหล้า เบียร์ บุหรี่ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม ที่แอบแฝงเปิดให้เล่นกันไม่เกรงกลัวกฎหมาย แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่บางร้านได้เร่งรีบเก็บของปิดร้านหนีอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นทางกำนัน ได้ประสานให้ทางนายจตุพร สมปอง ปลัดอำเภอท้ายเหมือง ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ไหมแก้ว รอง สวป.สภ.ท้ายเหมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง เจ้าหน้าที่ อส.ท้ายเหมือง เข้าดำเนินการตรวจยึดของกลางพร้อมนำตัวนักพนันส่งดำเนินคดี จากการเข้าจับกุมการพนันในครั้งนี้เนื่องจากมีชาวบ้านได้ร้องเรียนว่าการจัดงานภายใต้ชื่องานบวชสามเณร ภาคฤดูร้อน เป็นเวลา 10 คืน และได้มีการลักลอบเปิดเล่นการพนัน และ นำสุรา เบียร์ เข้ามาเป็นของรางวัลภายในงานวัดที่ไม่สมควรให้เกิดขึ้น เพราะสร้างความมั่วเมาให้กับเยาวชนเป็นอย่างมาก และอาจมีการแอบแฝงของการจัดเก็บผลประโยชน์ จากธุรกิจการพนัน ของหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งขัดต่อนโยบายของจังหวัดพังงา ที่มีการประกาศให้ทุกอำเภอปลอดจากการเล่นการพนัน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวเจ้ามือพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาลักลอบเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต
โพสต์โดย Andaman focus อันดามัน โฟกัส เมื่อ วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2018
เมื่อคืนวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 นางสาวอุมากร แพใหญ่ กำนันตำบลลำแก่น นายโกมล พราหมณ์แก้ว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 นายจุติ ปานรักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 นำกำลังสารวัตรกำนัน ชรบ.และ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กว่า 10 นาย บุกเข้าจับกุมบ่อนการพนันโปปั่น หมุนศรพาโชค ปาลูกโป่ง ปาเป้า บิงโก ที่ลักลอบเปิดเล่นภายในงานบวชสามเณรฤดูร้อน ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 10 คืน ที่วัดหลักแก่น ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งอยู่ห่างจากป้อมตำรวจลำแก่นประมาณ 300 เมตรเท่านั้น โดยขณะที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ได้มีกลุ่มนักพนันกำลังตั้งวงเล่นการพนันอยู่ และ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับวงแตก วิ่งหลบหนีกันไปคนละทิศคนละทาง ส่วนเจ้ามือขณะเห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุม ได้รีบเก็บเงินสดที่อยู่ในกระป๋องใส่ในกระเป๋าทันที เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายทรงฤทธิ์ โตสุนทร อายุ 33 ปี ที่รับเป็นเจ้ามือ มาดำเนินคดี
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าภายในวัด ยังมีร้านกว่า 10 ร้าน เปิดให้มีการเล่น ปาลูกโป่ง ปาเป้า บิงโก พนันยิงเป้า พนันปาขวด เพื่อแลกของรางวัล โดยมีสิ่งจูงใจที่มีทั้งตุ๊กตา เหล้า เบียร์ บุหรี่ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม ที่แอบแฝงเปิดให้เล่นกันไม่เกรงกลัวกฎหมาย แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่บางร้านได้เร่งรีบเก็บของปิดร้านหนีอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นทางกำนัน ได้ประสานให้ทางนายจตุพร สมปอง ปลัดอำเภอท้ายเหมือง ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ไหมแก้ว รอง สวป.สภ.ท้ายเหมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง เจ้าหน้าที่ อส.ท้ายเหมือง เข้าดำเนินการตรวจยึดของกลางพร้อมนำตัวนักพนันส่งดำเนินคดี
จากการเข้าจับกุมการพนันในครั้งนี้เนื่องจากมีชาวบ้านได้ร้องเรียนว่าการจัดงานภายใต้ชื่องานบวชสามเณร ภาคฤดูร้อน เป็นเวลา 10 คืน และได้มีการลักลอบเปิดเล่นการพนัน และ นำสุรา เบียร์ เข้ามาเป็นของรางวัลภายในงานวัดที่ไม่สมควรให้เกิดขึ้น เพราะสร้างความมั่วเมาให้กับเยาวชนเป็นอย่างมาก และอาจมีการแอบแฝงของการจัดเก็บผลประโยชน์ จากธุรกิจการพนัน ของหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งขัดต่อนโยบายของจังหวัดพังงา ที่มีการประกาศให้ทุกอำเภอปลอดจากการเล่นการพนัน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวเจ้ามือพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาลักลอบเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต
