พังงา-พีมูฟนำชาวบ้านพบรองอธิบดีกรมที่ดิน แก้ปัญหาความเดือดร้อนที่ดินทำกิน 3 จุด
พีมูฟนำชาวบ้านพบรองอธิบดีกรมที่ดิน ให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนที่ดินทำกิน 3 จุด
พังงา-พีมูฟนำชาวบ้านพบรองอธิบดีกรมที่ดิน ให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนที่ดินทำกิน 3 จุด ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา นางทัศนา นาเวศน์ แกนนำขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(พีมูฟ)จังหวัดพังงา นำตัวแทนชาวบ้านทับยาง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง และตัวแทนชาวบ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นผู้เดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เข้าร่วมการประชุมกับนายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายเปลี่ยน แก้วฤทธิ์ รองอธิบดีกรมที่ดิน น.ส.สุธีร์ ญาณชโลทร ผู้ตรวจราชการกรมที่ดินเขต 11 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับผู้เดือดร้อน ซึ่งทางกลุ่มพีมูฟจังหวัดพังงาได้เสนอให้ทางรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้แก่ผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิบ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากประสบปัญหาไม่มีที่ดินทำกินตั้งแต่คลื่นยักษ์สึนามิพัดผ่านมาเมื่อปลายปี 2547 ทำให้ที่อยู่อาศัยเดิมก่อนเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามัดถล่มจนไร้ที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ผลการประชุมสรุปว่าขอให้ทางหมู่บ้านบางสัก ทั้งหมู่ 7 และหมู่ 8 ได้จัดทำประชาคมเพื่อให้หมู่บ้านเห็นชอบในการขอที่ดินทำกินและที่ดินที่อยู่อาศัยให้ราษฎรในหมู่บ้านจำนวน 18 ครัวเรือน เป็นที่ดินในพื้นที่ นสล.จำนวน 10 ไร่ หากผลการประชาคมหมู่บ้านมีความเห็นอย่างใดให้นำเสนอต่อที่ประชุม ของจังหวัดในวันที่ 21 พฤษภาคม 2561 นี้อีกครั้ง นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เข้าประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ขับเคลื่อนในองค์กรพีมูฟของจังหวัดพังงา ซึ่งมีกรณีชาวบ้านที่ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปลายปี 47 ที่ผ่านมา ไร้ที่ดินทำกินและที่ดินที่อยู่อาศัยในพื้นที่บ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จำนวน 18 ราย ขออนุญาตใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งที่ประชุมคณะทำงานครั้งนี้ประกอบกับส่วนราชการหลายหน่วยงานได้ข้อสรุปว่าต้องมีการทำประชาคมหมู่บ้านในพื้นที่ของ หมู่ 7,8 ต.บางม่วง ว่าเห็นควรให้ผู้เดือดร้อนทำมาหากินอย่างไร เพื่อให้ประชาชนบ้านบางสักได้รับทราบและออกความคิดเห็น ส่วนกรณีบ้านทับยาง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ได้มีมติ กบร.แล้วว่าให้กรมที่ดินมีการเพิกถอนที่ดินโฉนดต่างๆในแปลงที่มีประทานบัตรอยู่ก่อน ดังนั้นในที่ประชุมของจังหวัดพังงาในวันที่ 21 พฤษภาคม 61 นี้ จะมีการนำเสนอผลสรุปคณะทำงานครั้งนี้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ด้านนายเปลี่ยน แก้วฤทธิ์ รองอธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้เดินทางมาติดตามผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปลายปี 47 ที่ผ่านมา ไร้ที่ดินทำกินและที่ดินที่อยู่ อาศัยในพื้นที่บ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จำนวน 18 ราย โดยพบว่าจังหวัดพังงาได้ดำเนินการเรื่องนี้มาตลอด ซึ่งพบว่าติดกฎหมายหลายหน่วยงานจึงได้เรียกเข้าประชุมและทำความเข้าใจแต่ละหน่วยงานพร้อมเสนอทางออกเป็นการเยียวยาให้แก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความสุขขึ้นมาในบ้านเมืองตามนโยบายของรัฐบาล โดยอำนาจการตัดสินเป็นฝ่ายอำนวยการของระดับกระทรวง ในกรณีบ้านทับยาง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง ทางกรมที่ดินโดยสำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ หรือ สนส. ยอมรับว่ามีข้อมูลตรงกันกับที่ผู้ยื่นขอให้กรมที่ดินเพิกถอนที่ดินดังกล่าว เพื่อนำเสนอ คณะกรรมการระดับจังหวัด ในการเร่งดำเนินการเพิกถอนที่ดินให้เป็นของรัฐ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการไม่มากและทันเวลาที่ทางกรรมการระดับจังหวัดจะพิจารณาให้เห็น นางทัศนา นาเวศน์ เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือกันในวันนี้ ชาวบ้านก็มีความพอใจในระดับหนึ่ง เพราะมีแนวทางออกร่วมกันโดยมีการยืนยันว่า หากข้อมูลทั้งหมดตรงกันก็จะดำเนินการออกโฉนดชุมชนให้ชาวบ้านได้อยู่อาศัยบนที่ดินของรัฐ วันนี้ทางพีมูฟถือว่าเป็นความเข้าใจและเป็นแนวทางอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะมองเห็นความสำเร็จ และความมั่นคงของชุมชนและชาวบ้านที่จะได้แนวทางการดูแลจากหน่วยงานของรัฐ
ข่าวน่าสนใจ:
- ลำพูน เปิดตัว “สุขศาลา” ศูนย์สุขภาพชุมชน รับมือ PM 2.5 ยกระดับคุณภาพชีวิต ชาวหละปูนฮักปอด”
- "มรสุม" ลูกแรกถึงนราฯแล้ว 20 - 26 พ.ย.67 !!!
- ร้อยเอ็ด...กบห.โหวดพิฆาตเข้าพบรักษาการพ่อเมืองร้อยเอ็ด ร่วมต้อนรับรัฐมนตรีประจำสำนักฯ เปิดงานเดิน-วิ่งการกุศล ณ อ่างธวัชชัย 30 พ.ย. 67
- ผอ.ชลประทานที่ 17 นำ 'พ่อเมืองนราฯ' ตรวจความพร้อมรับมืออุทกภัย
โพสต์โดย Andaman focus อันดามัน โฟกัส เมื่อ วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2018
ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา นางทัศนา นาเวศน์ แกนนำขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(พีมูฟ)จังหวัดพังงา นำตัวแทนชาวบ้านทับยาง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง และตัวแทนชาวบ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นผู้เดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เข้าร่วมการประชุมกับนายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายเปลี่ยน แก้วฤทธิ์ รองอธิบดีกรมที่ดิน น.ส.สุธีร์ ญาณชโลทร ผู้ตรวจราชการกรมที่ดินเขต 11 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับผู้เดือดร้อน ซึ่งทางกลุ่มพีมูฟจังหวัดพังงาได้เสนอให้ทางรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้แก่ผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิบ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากประสบปัญหาไม่มีที่ดินทำกินตั้งแต่คลื่นยักษ์สึนามิพัดผ่านมาเมื่อปลายปี 2547 ทำให้ที่อยู่อาศัยเดิมก่อนเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามัดถล่มจนไร้ที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ผลการประชุมสรุปว่าขอให้ทางหมู่บ้านบางสัก ทั้งหมู่ 7 และหมู่ 8 ได้จัดทำประชาคมเพื่อให้หมู่บ้านเห็นชอบในการขอที่ดินทำกินและที่ดินที่อยู่อาศัยให้ราษฎรในหมู่บ้านจำนวน 18 ครัวเรือน เป็นที่ดินในพื้นที่ นสล.จำนวน 10 ไร่ หากผลการประชาคมหมู่บ้านมีความเห็นอย่างใดให้นำเสนอต่อที่ประชุม ของจังหวัดในวันที่ 21 พฤษภาคม 2561 นี้อีกครั้ง
นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เข้าประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ขับเคลื่อนในองค์กรพีมูฟของจังหวัดพังงา ซึ่งมีกรณีชาวบ้านที่ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปลายปี 47 ที่ผ่านมา ไร้ที่ดินทำกินและที่ดินที่อยู่อาศัยในพื้นที่บ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จำนวน 18 ราย ขออนุญาตใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งที่ประชุมคณะทำงานครั้งนี้ประกอบกับส่วนราชการหลายหน่วยงานได้ข้อสรุปว่าต้องมีการทำประชาคมหมู่บ้านในพื้นที่ของ หมู่ 7,8 ต.บางม่วง ว่าเห็นควรให้ผู้เดือดร้อนทำมาหากินอย่างไร เพื่อให้ประชาชนบ้านบางสักได้รับทราบและออกความคิดเห็น ส่วนกรณีบ้านทับยาง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ได้มีมติ กบร.แล้วว่าให้กรมที่ดินมีการเพิกถอนที่ดินโฉนดต่างๆในแปลงที่มีประทานบัตรอยู่ก่อน ดังนั้นในที่ประชุมของจังหวัดพังงาในวันที่ 21 พฤษภาคม 61 นี้ จะมีการนำเสนอผลสรุปคณะทำงานครั้งนี้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ด้านนายเปลี่ยน แก้วฤทธิ์ รองอธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้เดินทางมาติดตามผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปลายปี 47 ที่ผ่านมา ไร้ที่ดินทำกินและที่ดินที่อยู่ อาศัยในพื้นที่บ้านบางสัก ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จำนวน 18 ราย โดยพบว่าจังหวัดพังงาได้ดำเนินการเรื่องนี้มาตลอด ซึ่งพบว่าติดกฎหมายหลายหน่วยงานจึงได้เรียกเข้าประชุมและทำความเข้าใจแต่ละหน่วยงานพร้อมเสนอทางออกเป็นการเยียวยาให้แก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความสุขขึ้นมาในบ้านเมืองตามนโยบายของรัฐบาล โดยอำนาจการตัดสินเป็นฝ่ายอำนวยการของระดับกระทรวง ในกรณีบ้านทับยาง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง ทางกรมที่ดินโดยสำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ หรือ สนส. ยอมรับว่ามีข้อมูลตรงกันกับที่ผู้ยื่นขอให้กรมที่ดินเพิกถอนที่ดินดังกล่าว เพื่อนำเสนอ คณะกรรมการระดับจังหวัด ในการเร่งดำเนินการเพิกถอนที่ดินให้เป็นของรัฐ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการไม่มากและทันเวลาที่ทางกรรมการระดับจังหวัดจะพิจารณาให้เห็น
นางทัศนา นาเวศน์ เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือกันในวันนี้ ชาวบ้านก็มีความพอใจในระดับหนึ่ง เพราะมีแนวทางออกร่วมกันโดยมีการยืนยันว่า หากข้อมูลทั้งหมดตรงกันก็จะดำเนินการออกโฉนดชุมชนให้ชาวบ้านได้อยู่อาศัยบนที่ดินของรัฐ วันนี้ทางพีมูฟถือว่าเป็นความเข้าใจและเป็นแนวทางอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะมองเห็นความสำเร็จ และความมั่นคงของชุมชนและชาวบ้านที่จะได้แนวทางการดูแลจากหน่วยงานของรัฐ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: