X

โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นให้ผู้สูงวัย 400 คน

พังงา- โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นให้ผู้สูงวัยในจังหวัดพังงา 400 คน

พังงาเปิดโครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ

พังงา- โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ ตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นให้ผู้สูงวัยในจังหวัดพังงา 400 คน ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดมาตุคุณาราม ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานเปิดโครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯสยามบรมราชกุมารี” โดยมี มรว.จิยากร เสสะเวช กรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย พร้อมด้วย นายบำรุง ปิยนามวาณิช นายก อบจ.พังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอตะกั่วทุ่ง ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษห้างแว่นท็อปเจริญ ผู้แทนกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดพังงาและผู้สูงวัยที่มีปัญหาทางสายตาเข้าร่วมโครงการจำนวน 400 คน นางไขแสง ศักดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพังงา กล่าวว่า มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทยก่อตั้งขึ้นโดยพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ.2524 มีภารกิจในการอุปการะเลี้ยงดูเด็กกำพร้า ที่มารดาคลอดแล้วทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม ของเด็กก่อนจะส่งเด็กเข้าสู่สถาบันครอบครัว ทั้งครอบครัวผู้ให้กำเนิดและครอบครัวบุญธรรมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2551 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระกระแสรับสั่งต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เกี่ยวกับการตัดแว่นให้ผู้สูงวัยว่า ยังไม่มีหน่วยงานใดช่วยดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชประสงค์อย่างจริงจัง ทั้งนี้ ทรงเล็งเห็นว่า หากผู้สูงวัยต้องเลี้ยงดูเด็กกำพร้า หรือต้องเลี้ยงหลาน แต่ตามองเห็นได้ไม่ชัดเจน จะเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ทางมูลนิธิฯ จึงได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งหารือกับห้างแว่นท็อปเจริญ ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนในการดำเนินงานให้บริการตรวจสายตาและประกอบแว่นแก่เด็กยากไร้และอยู่ในถิ่นทุรกันดาร โดยจัดทำโครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” และขอพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้มูลนิธิฯ ดำเนินการร่วมกับห้างแว่นท็อปเจริญ เพื่อช่วยเหลือในการตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป เพื่อให้ผู้สูงวัยที่ยากไร้ ด้อยโอกาสและต้องดูแลเด็กด้อยโอกาสและอยู่ในถิ่นทุรกันดาร มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยกำหนดจัดโครงการระยะแรกเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2552 – 31 ธันวาคม พ.ศ.2557 ซึ่งพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ดำเนินการได้ ปัจจุบันได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ดำเนินการต่ออีก 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2562 และเพื่อให้การดำเนินการตามโครงการฯ สำเร็จลุล่วงลงด้วยดี มูลนิธิฯ จึงบูรณาการ การจัดโครงการร่วมกับกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการในพื้นที่ ช่วยคัดกรองผู้สูงวัยที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป และมีปัญหาทางด้านสายตาเข้ารับบริการ ทั้งนี้ คณะทำงานซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทางด้านสายตาของห้างแว่นท็อปเจริญจะออกให้บริการตรวจวัดสายตาแก่ผู้สูงวัย เดือนละ 1 ครั้งๆ ละ 400 คน และจะประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยทุกคนตามค่าสายตาที่เป็นจริง

โพสต์โดย Andaman focus อันดามัน โฟกัส เมื่อ วันพุธที่ 16 พฤษภาคม 2018

ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดมาตุคุณาราม ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานเปิดโครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯสยามบรมราชกุมารี” โดยมี มรว.จิยากร  เสสะเวช กรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย พร้อมด้วย นายบำรุง ปิยนามวาณิช นายก อบจ.พังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอตะกั่วทุ่ง ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษห้างแว่นท็อปเจริญ  ผู้แทนกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดพังงาและผู้สูงวัยที่มีปัญหาทางสายตาเข้าร่วมโครงการจำนวน 400 คน

นางไขแสง  ศักดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพังงา กล่าวว่า มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทยก่อตั้งขึ้นโดยพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ.2524 มีภารกิจในการอุปการะเลี้ยงดูเด็กกำพร้า ที่มารดาคลอดแล้วทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม ของเด็กก่อนจะส่งเด็กเข้าสู่สถาบันครอบครัว ทั้งครอบครัวผู้ให้กำเนิดและครอบครัวบุญธรรมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2551 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระกระแสรับสั่งต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เกี่ยวกับการตัดแว่นให้ผู้สูงวัยว่า ยังไม่มีหน่วยงานใดช่วยดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชประสงค์อย่างจริงจัง ทั้งนี้ ทรงเล็งเห็นว่า หากผู้สูงวัยต้องเลี้ยงดูเด็กกำพร้า หรือต้องเลี้ยงหลาน แต่ตามองเห็นได้ไม่ชัดเจน จะเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว

ทางมูลนิธิฯ จึงได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งหารือกับห้างแว่นท็อปเจริญ ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนในการดำเนินงานให้บริการตรวจสายตาและประกอบแว่นแก่เด็กยากไร้และอยู่ในถิ่นทุรกันดาร โดยจัดทำโครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” และขอพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้มูลนิธิฯ ดำเนินการร่วมกับห้างแว่นท็อปเจริญ เพื่อช่วยเหลือในการตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป เพื่อให้ผู้สูงวัยที่ยากไร้ ด้อยโอกาสและต้องดูแลเด็กด้อยโอกาสและอยู่ในถิ่นทุรกันดาร มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยกำหนดจัดโครงการระยะแรกเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2552 – 31 ธันวาคม พ.ศ.2557 ซึ่งพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ดำเนินการได้  ปัจจุบันได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ดำเนินการต่ออีก 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2558 ถึงวันที่   31 ธันวาคม พ.ศ.2562 และเพื่อให้การดำเนินการตามโครงการฯ สำเร็จลุล่วงลงด้วยดี มูลนิธิฯ จึงบูรณาการ การจัดโครงการร่วมกับกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการในพื้นที่ ช่วยคัดกรองผู้สูงวัยที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป และมีปัญหาทางด้านสายตาเข้ารับบริการ ทั้งนี้ คณะทำงานซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทางด้านสายตาของห้างแว่นท็อปเจริญจะออกให้บริการตรวจวัดสายตาแก่ผู้สูงวัย  เดือนละ 1 ครั้งๆ ละ 400 คน และจะประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยทุกคนตามค่าสายตาที่เป็นจริง

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of อโนทัย งานดี

อโนทัย งานดี

นักข่าวตัวเล็กๆในเมืองแห่งความสุข