นครปฐม : ครูหนุ่มสอนพิเศษโรงเรียนติวเตอร์ ขอหอมแก้มง้อคืนดีเมียไม่เป็นผล จ่อยิงฆ่าโหดเมียแม่ลูกอ่อน และพ่อตา 2 ศพ กลางโรงพยาบาลนครปฐม แล้วจ่อยิงขมับตัวเองบาดเจ็บสาหัส ท่ามกลางผู้ป่วยนอกเป็นจำนวนมาก
เมื่อเวลา 12.50 น.วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ร.ต.อ.พิสิษฎ์ แก้วไกรเพชร์ ร้อยเวร สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายใน รพ.ศูนย์นครปฐม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม และ มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ รุดไปยังที่เกิดเหตุ
ไปถึงที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณหน้าห้องแผนกสูตินรีเวชกรรม ฝั่งตรงข้ามห้องจ่ายยา ภายในตึกอำนวยการ พบผู้คนเป็นจำนวนมากที่มารอรับการรักษาเป็นจำนวนมาก และพบกองเลือดแดงฉาน อยู่หน้าห้องตรวจสูตินรีเวช และอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบว่า มีผู้บาดเจ็บถูกยิงทั้งหมด 4 คน ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินในทันที
สอบสวนทราบชื่อ ทั้ง 4 คน คือ น.ส.ธัญญมาศ ทะนามศรี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/22 ถ.25มกรา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ถูกยิงเข้าที่ใต้ราวนมซ้าย 1 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา , นายสัมพันธ์ ทะนามศรี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/22 ถ.25มกรา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ถูกยิงเข้าที่ขมับศรีษะ 1 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา นายชัยพร เชาวนะกมล อายุ 32 ปี ถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด ถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัดเป็นการด่วน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นางดวงเดือน สิริพิชญ์ตระกูล อายุ 52 ปี มีบาดแผลถลอกที่ขาด้านซ้าย
สอบสวน ทราบว่า มือปืนผู้ก่อเหตุคือ นายชัยพร ทะนามศรี อายุ 32 ปี มีอาชีพเป็นครูสอนพิเศษ อยู่ที่โรงเรียนติวเตอร์ ข้างโรงเรียนบำรุงราษฎร์ ในตัวเมืองนครปฐม ส่วน น.ส.ธัญญมาศ หรือ กิ๊ก ผู้ตาย เป็นภรรยา เพิ่งจะมีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นผู้ชาย วัยได้เพียง 1 เดือน ส่วนนายสัมพันธ์ ทะนามศรี อายุ 60 ปี ผู้ตายอีกคนเป็นพ่อตา ส่วนนางดวงเดือน เป็นผู้ป่วยนอกที่โดนลูกหลงจนบาดเจ็บ
ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ธัญญมาศ หรือ น้องกิ๊ก ผู้เป็นเมียมารอรับการตรวจที่แผนกสูตินรีเวช โดยมาพร้อมกับนายสัมพันธ์ฯ ผู้เป็นพ่อ ขณะที่กำลังนั่งรอรับการตรวจ จู่ๆ นายชัยพร สามีได้ตามเข้าไปทีหลัง และมีการนั่งพูดคุยกันประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ทั้งพยายามโอบกอด หอมแก้มเมีย แต่เมียก็ไม่สน จนมีปากเสียงทะเลาะกันขึ้น จนนายสัมพันธ์ ผู้เป็นพ่อตาได้ห้ามปราม แต่นายชัยพร ลูกเขยก็ไม่ฟัง จู่ๆ ก็ชักอาวุธปืนขนาด .38 ที่พกติดตัวมา และเป็นปืนที่พ่อตาซื้อให้ไว้ป้องกันขโมย ยิงเข้าใส่ น.ส.ธัญมาศ ผู้เป็นเมีย 1 นัด แล้วหันปลายกระบอกปืน ยิงเข้าที่ศรีษะนายสัมพันธ์ฯ พ่อตาตัวเองอีก 1 นัด ก่อนจะจ่อยิงเข้าขมับตัวเอง อีก 1 นัด จนเป็นเหตุให้ น.ส.ธัญญมาศ และ นายสัมพันธ์ ผู้เป็นเมียและพ่อตาถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ส่วนตัวเองบาดเจ็บสาหัส แพทย์นำเข้าห้องผ่าตัดเป็นการด่วน ส่วนอาการเป็นตายเท่ากัน
จากการสอบถาม นางอภิรดี กัลยาพิเชษฐ์ อายุ 69 ปี แม่ของนายชัยพร มือปืนผู้ก่อเหตุอันเศร้าสลดและสะเทือนขวัญกลางโรงพยาบาลในครั้งนี้ ทราบว่า ลูกชายเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่งงานอยู่กินกับ น.ส.ธัญญมาศ มา 5-6 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นผู้ชาย อายุพึงได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวานนี้ ลูกชายของตนและตนเองเดินทางไปหาลูกสะใภ้ที่บ้าน เพื่อขอคืนดี แต่ลูกสะใภ้ไม่ยอมเปิดประตูให้เข้าไป พร้อมทั้งยืนยันเสียงแข็งว่า ไม่ยอมกลับไปเป็นเหมือนเดิม ตัดคือตัด
ซึ่งตนเองก็มีลางสังหรณ์ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว โดยเหตุผลที่ลูกชายตามมาง้อ ทางตนเองก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จำได้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยบอกกับตนว่า ให้นำลูกชายไปรักษาตัว เพราะอาจเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท แต่จากที่ตนสังเกต เมื่อลูกชายอยู่กับตนก็ไม่มีการกินยารักษาโรคนี้ จากนั้นก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ แม่ทางฝ่ายหญิงโทรมาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหลังจากนั้น ก็เกิดเหตุที่ลูกชายก่อเหตุขึ้น โดยผู้เป็นแม่ก็ไม่ทราบมาก่อนว่า ทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกัน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก็เป็นปืนที่นายสัมพันธ์ พ่อตาซื้อให้ในราคาสวัสดิการทหาร เพื่อไว้ป้องกันโจรขโมย และไม่คิดมาก่อนว่าลูกชายจะมาคิดสั้นก่อเหตุแบบนี้ขึ้น
