นครปฐม : ตำรวจนครปฐมจับแล้ว มือปืนโหดจ่อยิงแสกหน้าฆ่าอริกลางร้านคาราโอเกะ ตำรวจตามยึดอาวุธปืนที่ใช้สังหารเหยื่อ ก่อนติดต่อขอเข้ามอบตัว สารภาพบันดาลโทสะ ถูกกลุ่มผู้ตายด่าบุพการี จึงเปิดฉากก่อคดีโหด
วันนี้ 30 มกราคม 2563 พลตำรวจตรี คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ได้ร่วมสอบสวน นายภมร เกิดสุข อายุ 42 ปี ซึ่งได้เดินทางเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ หลังตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุยิงคู่อริ ภายในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลห้วยจรเข้ อำเภอเมืองนครปฐม เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายสุกิจ สังข์แก้ว อายุ 25 ปี และอีกรายบาดเจ็บสาหัส คือ นายชาญณรงค์ เอียมอำไพร อายุ 25 ปี
จากการสอบสวน นายภมร เกิดสุข อายุ 42 ปี มือปืนให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า เคยมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มผู้ตายมาก่อน และเมื่อมาเจอกันที่ร้านคาราโอเกะ เห็นว่ากลุ่มผู้ตายมากันหลายคน เกรงว่าจะถูกรุมทำร้าย และในระหว่างที่เดินสวนกัน กลุ่มผู้ตายได้ตะโกนด่าบุพการี ทำให้เกิดบันดาลโทสะ จึงชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมาเปิดฉากยิงใส่กลุ่มผู้ตายก่อน
ทั้งนี้ ภายหลังสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหา มาที่ร้านคาราโอเกะ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมี ร.ต.อ.แสงเพชร วิลัยกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม นำตัวผู้ต้องหาชี้จุดและจำลองเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุ
ส่วนทางด้านกลุ่มเพื่อนผู้ตาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มพวกตนพร้อมผู้ตายและผู้บาดเจ็บ ได้เข้ามาเที่ยวภายในร้านคาราโอเกะ และขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้อง ก็สังเกตเห็นกลุ่มผู้ต้องหานั่งอยู่ภายในร้าน 2 คน ซึ่งก็ไม่ได้สนใจ จนเมื่อกลุ่มพวกตนเข้าไปในห้องสั่งอาหารและเครื่องดื่ม ผู้ตายและผู้บาดเจ็บ ได้ลุกเดินออกจากห้องเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ
แต่พอเปิดประตูออกไป ก็พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเดินถือปืนตรงเข้ามาในระยะประชิด โดยใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะทันที จำนวน 1 นัด เสียชีวิตทันที จากนั้นมือปืน ได้หันไปยิงหลัง ของนายชาญณรงค์ฯ อีก 1 นัด ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าร้าน
ด้าน พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ต้องหาอ้างว่ามีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มผู้ตาย และในวันเกิดเหตุก็เห็นกลุ่มผู้ตายมากันหลายคน เกรงจะถูกประทุษร้าย จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ก่อน ซึ่งหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสืบสวนหาข้อมูล จนสามารถทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ และติดตามยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนผู้ต้องหาได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน โดยหลังคุมตัวทำแผนเสร็จสิ้น ก็จะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.
พิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ – ภาพ / อภิชัย ศรีม่วงงาม – ข่าว
