นครปฐม : จับแล้ว โจรใจบาป มารศาสนา ขโมยเงินในโลงศพรับบริจาค วัดดังนครปฐม แถมมีประวัติยาเสพติด ตำรวจคุมตัวไปทำแผน พร้อมกราบขอขมาหลวงพี่
จากเหตุการณ์มีภาพคลิปปรากฏหญิงสาว มีปากเสียงกับพระภิกษุรูปหนึ่ง ที่บริเวณด้านหน้าอุโบสถ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่พยายามจะเข้าไปลักทรัพย์ในตู้บริจาค ก่อนที่พระในวัดจะมีการจับได้ และต่อว่าจนเกิดมีปากเสียง แล้วกระโดดถีบ และทำร้ายร่างกายพระ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น
ล่าสุดช่วงสายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้นำตัว น.ส.อรวรรณ ปานเจริญ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/18 หมู่ 2 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ผู้ที่ปรากฏในคลิป ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจาก หลังจากเมื่อปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.อรวรรณฯ ก็ได้พยายามจะเข้าไปงัดตู้บริจาคในอุโบโบสถ์ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม แต่ได้มีพระลูกวัดมาพบเห็นเสียก่อน จากนั้นก็ทำร้ายพระลูกวัดจนได้รับบาดเจ็บ และได้นำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดนครปฐมไปแล้ว
ส่วนบรรยากาศ ที่วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวได้พบกับพระกิตติศักดิ์ กิตติ์ธนาสิทธิกูล ผู้เสียหายที่ถูก น.ส.อรวรรณ ทำร้ายร่างกาย โดยได้พาไปยังจุดที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าอุโบสถ และที่ตู้บริจาคที่ผู้ต้องหาพยายามขโมยทรัพย์ พร้อมกับโชว์รอยบาดแผลที่คอ และจมูกของพระกิตติศักดิ์ฯ มีร่องรอยบาดแผลจากการถูกน.ส.อรวรรณ โจรใจบาปรายนี้ทำร้าย
พระกิตติศักดิ์ฯ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 31 ก.ค.61 ซึ่งปกติทุกวันอาตมาจะเดินตรวจความเรียบร้อยในวัด ตามปกติ ซึ่งในช่วงเกิดเหตุมีคนงานของวัดมาบอกว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเดิมกับที่เคยมาก่อเหตุงัดแงะเงินในตู้บริจาคมาแล้วหลายครั้ง และได้เดินเข้าไปในภายอุโบสถอีก ซึ่งน่าจะเข้าไปงัดตู้เงินบริจาคอีกอย่างแน่นอน
ดังนั้นอาตมาจึงรีบเดินไปดู ซึ่งพบว่ามีเด็กผู้หญิงนั่งอยู่ที่หน้าอุโบสถ เมื่อเห็นอาตมาเด็กหญิงก็ได้ตะโกนว่า “แม่ๆพระมาแล้ว” ไม่นาน น.ส.อรวรรณฯ ก็ได้เดินออกมาที่บันไดหน้าอุโบสถ อาตมาจึงเข้าไปว่ากล่าวตักเตือน แต่กลับถูก น.ส.อรวรรณฯ ด่าทอด้วยคำหยาบคายพร้อมกับเดินเข้ามากระโดดถีบและตบหน้าอาตมาหลายครั้ง จนต้องตะโกนเรียกคนให้มาช่วย หลังจากก่อเหตุเสร็จ น.ส.อรวรรณฯ ก็ได้เดินอุ้มลูกหลบหนีไป อาตมาจึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพราะว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงกับพระสงฆ์ และยังไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายอีกด้วย
นอกจากนี้ พบว่าผู้ต้องหารายนี้ ได้ก่อเหตุงัดเงินในโลงศพรับบริจาคที่วิหารหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และได้เงินสดไปประมาณ 1,000 บาท แล้วได้ใจ จึงพยายามเข้ามาก่อเหตุที่เดิมอีก โดยมีกล้องวงจรปิดของวัดจับภาพไว้ได้ จนกระทั่งมาก่อเหตุทำร้ายพระสงฆ์ ได้รับบาดเจ็บอย่างไม่กลัวบาปกรรมอีกด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจปัสสาวะ และก็พบว่ามีการเสพสารเสพติดด้วย จึงแจ้งข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ลักทรัพย์ ทำร้ายผู้อื่น และพยายามลักทรัพย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันเดียวกัน พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี ได้สั่งการให้ติดตามและเร่งรัดในคดีดังกล่าวโดยได้จับกุมนายณรงค์สุขนา อายุ42 ปี(สามีของ น.ส.อรวรรณฯ) อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 8 ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังจากพบพฤติกรรมต้องสงสัยจะมีการเสพยาเสพติดโดยมีใบรับรองผลการตรวจปัสสาวะของโรงพยาบาลนครปฐมว่ามีปัสสวะสีม่วงโดยกล่าวหาว่าเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย โดยสามารถจับกุมตัวได้ ถนนสาธารณะ ม.3 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
พิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ – ขนิษฐา ชื่นยินดี / ข่าว-ภาพ จังหวัดนครปฐม
