นครปฐม : ตำรวจภูธรภาค 7 จัดมอบคืนโฉนดที่ดิน และทรัพย์สินหนี้นอกระบบ คืนความสุขให้กับประชาชน ตกเป็นเหยื่อ นายทุนเงินกู้นอกระบบ ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม บางรายถึงกับคิดฆ่าตัวตาย
โครงการนี้นับเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชนโดยแท้จริง ตามนโยบายของรัฐบาลและ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการเชิงรุกในการปราบปราม ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ทั้งการปราบปรามจับกุมและการขับเคลื่อนนโยบายแบบบูรณาการ การทำงานร่วมกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งในส่วนของตำรวจภูธรภาค 7
โดย พลตำรวจโท กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย รอง ผบช.ภ.7 ผบก.ภ.จว.ในสังกัด ภ.7 ฝ่ายปกครอง พนักงานอัยการ ทหาร และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต่างเข้าร่วมพิธีมอบคืนโฉนดที่ดินและทรัพย์สินคืนความสุขให้กับประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และทำให้ประชาชนมีความสุข มีการขับเคลื่อนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ มีทั้งการบังคับใช้กฎหมาย และการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจรจาไกล่เกลี่ย ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
พร้อมแถลงผลการปฏิบัติ ทั้งการตรวจค้น จับกุมการกระทำความผิด และการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจรจาไกล่เกลี่ยเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน โดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรมหรือเงินกู้นอกระบบ ซึ่งผลการปฏิบัติ ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.-15 ส.ค.61 ทั้งการจับกุมและการบูรณาการแก้ปัญหา สามารถนำโฉนดที่ดินคืนให้กับเจ้าของที่ดิน รวม 99 ฉบับ รวมเนื้อที่ประมาณ 314 ไร่/2 งาน/57.7 ตารางวา ทั้งยังได้คืนรถยนต์ และทรัพย์สินประกันหนี้อื่นๆอีก รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 26,622,533 บาท ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการบูรณาการกับทุกภาคส่วนแก้ปัญหาอีก จำนวน 342 ราย ซึ่งจะมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องต่อไป
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีเหยื่อที่ตกอยู่ในวงจรเงินกู้นอกระบบอีกจำนวนมาก และต้องเกิดความเครียดอย่างหนัก หลังไม่สามารถหมุนเงินและนำเงินมาชดใช้ให้กับนายทุนได้ทัน จึงถูกข่มขู่สารพัดวิธี ทำให้ต้องอยู่อย่างไม่เป็นสุข สุดท้ายก็ต้องคิดมากถึงขนาดเคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้วก็มี อย่างเช่น นายมานะ สมิทธิสมบูรณ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 3 ตำบลสามง่าม อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม
เจ้าของธุรกิจร้านหมูกระทะชื่อดังตลาดกำแพงแสน ต้องตกเป็นเหยื่อให้กับนายทุนเงินกู้นอกระบบ เพื่อนำเงินมาหนุนทำธุรกิจและด้านค่าใช้จ่ายอื่นๆ จนต้องไปพึ่งนายทุนเงินกู้อยู่ 2-3 ราย รวมเป็นเงินกว่า 100,000 บาท จนกระทั่งเริ่มมีปัญหาถูกนายทุนนำเงินบอกเบี้ยที่ส่งล่าช้า นำมาบวกเป็นเงินต้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงกลายเป็นหนีพอกหางหมูเพิ่มเติม ในที่สุดก็ไม่สามารถหาเงินส่งดอกให้ได้อีก จึงถูกนายทุนสั่งลูกน้องมาข่มขู่ถึงที่ ทำให้ต้องคิดหนักและเกิดความเครียดจนเคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว ล่าสุดเรื่องนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้รับเรื่องนี้ไว้แล้ว ซึ่งจะได้มีการติดตามความคืบหน้าต่อไป
พิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ – ถ่ายภาพ / ขนิษฐา ชื่นยินดี – ข่าว นครปฐม
