นครปฐม- “เสี่ยลภ”ดอดมอบตัวหลังถูกออกหมายจับลั่นไกฆ่าแฟนสาวดับคาเก๋งป้ายแดง เมินขอประกันตัว ยอมรับอาวุธปืนสั่งซื้อปืนเถื่อน ส่วนรถกระบะที่ปรากฏในคลิปขับเบียดรถแฟนสาวก่อนถูกยิงเป็นรถของพี่ชาย แต่ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนขอให้การในชั้นศาล
จากกรณีพบศพ น.ส.นภธร กนกเกษมโสภณ อายุ 23 ปี ถูกยิงเสียชีวิตภายในรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ป้ายทะเบียนแดง เมื่อเวลาประมาณ 02.55 น.วันที่ 4 ก.ค. บนถนนประปา-นาสร้าง ปากซอย 3 ม.5 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม และในวันเดียวกัน พนักงานสอบสวนสภ.เมือง นครปฐม ได้ขออนุมัติออกหมายจับจากศาลจังหวัดนครปฐมเพื่อจับกุมนายวัลลภ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 15 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรอง มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต โดยนายวัลลภ เป็นแฟนของผู้ตายที่คบหากันได้ปีกว่า และเป็นเสี่ยปล่อยเงินกู้นอกระบบในพื้นที่
และวันนี้สื่อมวลชนจำนวนมาก ต่างรอติดตามข่าวความคืบหน้าของคดีที่สภ.เมืองนครปฐมหลังมีรายงานว่า นายวัลลภ ผู้ต้องหาตามหมายจับได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ชุดสายสืบ ตำรวจภาค 7 แล้วตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 6 ก.ย.โดยผ่านบุคคลที่ผู้ต้องหาเคารพนับถือประสานกับ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมทำการมอบตัวกันที่ กองกำกับการสืบสวน 1 บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
ขณะเดียวกันที่บริเวณด้านหน้า สภ.เมืองนครปฐม ก็ได้มีนายพิวัตร พึ่งอุทัย ทนายความของนายวัลลภ ห้วยหงส์ทอง ผู้ต้องหา ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนระหว่างรอผู้ต้องหาเดินทางมาว่าผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและจะให้การในชั้นศาล และไม่ประสงค์ในการประกันตัว
ต่อมาในช่วงเวลา 11.30 น.พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองนครปฐม เพื่อประชุมรับฟังความคืบหน้าของคดี และในเวลาประมาณ 12.00 น. ได้มีรถตู้ของตำรวจได้นำตัวนายวัลลภ ห้วยหงส์ทอง เข้ามายัง สภ.เมืองนครปฐม โดยมีกองทัพสื่อมวลชนรอบันทึกภาพกันเป็นจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ชุดคอมมานโด ตำรวจภาค 7 คอยป้องกันอย่างแน่นหนาและนำตัวนายวัลลภ ขึ้นไปยังห้องประชุมชั้น 2 ที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม, ผู้กำกับ สภ.เมืองนครปฐม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รอคอยอยู่แล้ว โดยใช้เวลาสอบถามประมาณ 30 นาที
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยหลังพบกับนายวัลลภ ผู้ต้องหาว่า คดีนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และจะให้การในชั้นศาลแทน ดังนั้นการทำแผนประกอบรับคำสารภาพจึงไม่สามารถทำได้ ส่วนอาวุธปืนผู้ต้องหาอ้างว่าได้ซื้อต่อมาจากเพื่อน เป็นอาวุธปืนเถื่อนจากนอก สำหรับรถกระบะตามภาพวงจรปิด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าเป็นรถของพี่ชาย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนก็จะต้องติดตามตรวจสอบรถกระบะคันดังกล่าวต่อไป
ข่าว/ภาพ :พิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ ,สุรัตการณ์ ปานวณิชยกิจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: