หนุ่มร้อยเอ็ดใช้มีดปอกผลไม้ปาดคอและแทงตัวเองบนรถแท็กซี่ อาการสาหัส อ้างทะเลาะกับเมีย ตำรวจไม่ปักใจเชื่อแจ้งแพทย์ตรวจสารเสพติดด้วย
เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 4 มกราคม 2565 พ.ต.ท.ไชยยณัฐ มาพงษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุชายใช้อาวุธมีดแทงตัวเองในรถแท็กซี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณกลางสีแยกไฟแดงคลองขุดมุ่งหน้าบางพลี ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและรถกู้ชีพโรงพยาบาลบางพลี เดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- บพท.ร่วม มรภ.ชัยภูมิ ส่งเสริมงานวิจัยต่อยอดบันทึกประวัติศาสตร์เมืองชัยภูมิรอบ 198 ปี!
- ตรัง จากสวนปาล์มตรังสู่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสานต้นแบบ ขุดสระน้ำเป็นรูปเลข 9 อารบิก สอดคล้องกับแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9
- ตรัง "บุญกฐิน-ตักบาตรขนมโค" หนึ่งเดียวในไทย ชาวตรังแห่ร่วมงานทอดกฐินออกโรงทานคับคั่ง
- สนามแข่งบุญชิงถ้วยพระราชทานงานพ่อโสธร เจ้าถิ่นครองเจ้าสนาม 55 ฝีพาย
ที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่ยี่ห้อ โตโยต้า สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มข 6303 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพประตูข้างคนขับเปิดอ้าอยู่ ภายในรถพบร่างผู้บาดเจ็บนั่งอยู่ที่เบาะหลังฝั่งซ้ายเป็นชายชื่อนายสมพร สูงรัง อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด นั่งหายใจรวยรินในสภาพเลือดแดงฉานท่วมตัว มีบาดแผลที่ลำคอถูกปาดด้วยมีดเป็นบาดแผลฉกรรจ์ และที่ใต้ราวนมซ้าย และหน้าท้องรวม 3 แผล อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์สุวรรณภูมิ ที่พื้นรถได้พบมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 4 นิ้วเปื้อนเลือดตกอยู่จำนวน 2 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายเฉลิมชัย ไชยสีหา อายุ 51 ปี คนขับแท็กซี่ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้รับชายคนดังกล่าวมาจากปากซอยประชาอุทิศ 76 โดยชายคนดังกล่าวบอกว่าให้ขึ้นทางด้วยไปบางนา แต่ตนก็แปลกใจว่าตอนแรกบอกให้ตนไปขึ้นด่วนกาญจนาตรงพระราม 2 และบอกให้มาลงช่วงเลยช้างสามเศียร แต่เขาเห็นรถตำรวจอยู่บนทางด่วน เขาก็เลยบอกให้ตนลงตรงถนนปู่เจ้าเลย ตนก็เลยลงตรงด่านปู่เจ้าสมิงพราย แต่พอมาถึง 4 แยกที่จะออกสุขุมวิท เขาให้เลี้ยวเข้าสรรพาวุธและบอกให้ไปส่งที่เซ็นทรัลบางนา แต่พอไปถึงเขากลับอกให้ขับรถตรงไปจนเกือบถึงบางแสนและก็บอกให้ตนกดมิเตอร์ทิ้งรอบหนึ่งและตนก็กดใหม่อีกรอบหนึ่ง ตนก็เริ่มเป็นห่วงว่าชายคนดังกล่าวจะไม่มีเงินจ่ายตนเพราะมาไกลขนาดนี้ แต่ชายคนดังกล่าวบอกว่ามีและส่งบัตรเอทีเอ็มมาให้ตนไปกดเงินเอง โดยที่เขาบอกว่าเขาจะไม่ลงจากรถ ตนก็เลยไปกดยอดเงินดูพบว่าในบัตรดังกล่าวไม่มีเงินอยู่เลยเป็นศูนย์บาท ตนก็คิดแล้วว่าคงไม่ได้เงินแล้ว
ซึ่งตอนนั้นเขายังไม่ได้เอามีดออกมาโชว์ให้เห็น ตนก็เลยหาทางกลับรถระหว่างที่ขับรถกลับมาตนก็ได้บอกว่า น้องไม่สงสารพี่เหรอพี่ต้องทำมาหากินนะ ชายคนดังกล่าวจึงบอกให้ตนแวะที่เซเว่นแล้วจะโอนเงินทางโทรศัพท์ให้ พอจะจอดเขากลับบอกว่าให้ตนขับรถออกไป และให้ตนขับรถไปถึงสุขุมวิท 62 และก็บอกให้เลี้ยวซ้ายและตนก็ได้ยินเสียงคล้ายเอามีด 2 เล่มมากรีดกัน ตนมองผ่านกระจกมองหลังพบว่าเป็นมีดทำให้ตนไม่กล้าที่จะไล่ชายคนดังกล่าวลงจากรถ ซึ่งตนตั้งใจว่าจะหาจอดตรงแยกไฟแดงไหนที่มีคนเยอะ ๆ และจะดับเครื่องและรีบหนีลงมา ขับมาจนถึงแยกศรีเทพา เห็นมีเจ้าหน้าที่อยู่ 2 คนก็เลยไม่กล้าจอด แต่พอขับมาถึงสี่แยกคลองขุดเห็นมีรถยนต์ติดไฟแดงอยู่หลายคัน ตนก็เลยจอดดับเครื่องและเปิดประตูหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากรถข้างเคียงที่จอดติดไฟแดงอยู่ ตนก็เลยวิ่งข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งซึ่งมีน้อง 2 คนจอดรถจักรยานยนต์ติดไปแดงอยู่ เขาช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอมลงจากรถ ตนก็ไม่กล้าเข้าไปได้แต่ยืนมองอยู่ฝั่งตรงข้ามจนเจ้าหน้าที่มาตนจึงเดินเข้าไปดูพร้อมเจ้าหน้าที่จึงรู้ว่าเขาแทงตัวเอง มันน่ากลัวมาก น้องเขายิ่งมาบอกว่าถ้าเกิดพี่ไปอีกหน่อยคนที่เจ็บก็คือพี่นั่นแหละโดยเขาบอกว่าทะเลาะกับเมียมันใช้จีพีเอสตาม ทำให้ตนเริ่มเอะใจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าชายคนดังกล่าวน่าจะมีอาการมึนเมาอะไรบางอย่าง จึงได้แจ้งให้แพทย์ทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายด้วย เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: