นครปฐม : ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 โชว์ทีเด็ด ทะลายแก๊งยานรกรายใหญ่ ยึดยาบ้า กว่า 7 หมื่นเม็ด ยาไอซ์ กว่า 6 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สินมูลค่ารวม กว่า 7 แสนบาท เตรียมขยายผลตามล่าเครือข่าย หนีออกแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
ตามนโยบายรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนภูธรภาค 7 เพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า โควิด 19
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จึงได้เร่งรัดดำเนินการปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายดังกล่าว ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโทธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พลตำรวจตรีพงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการสืบสวนภูธรภาค 7 ซึ่งสั่งการให้ดำเนินการสืบสวนติดตามบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
จนกระทั่งวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 เวลาประมาณ 21.00 น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนภูธรภาค 7 นำโดยพันตำรวจเอกปรีดา อิ่มเจริญ รองผู้บังคับการสืบสวนภูธรภาค 7 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมจับกุมตัวนายบุญสม หรือสม ใจคม อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 3 ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี
ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่า นายณรงค์ หรือ ตุ้ย วรานนท์ ฉายาตุ้ยตู้เย็นซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้หลบหนีไปอยู่แนวชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีพฤติกรรมลักลอบส่งยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และใกล้เคียง
จนเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 ชุดจับกุมสามารถติดต่อซื้อยาเสพติดจากนายณรงค์ หรือตุ้ยและได้รับการติดต่อให้มารับมอบยาเสพติด โดยมีนายบุญสม หรือ สม ใจคม พี่ชายต่างบิดา ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้เก็บซุกซ่อนยาเสพติดได้นำยาบ้าจำนวน 1 มัด 2000 เม็ดมาส่งมอบ โดยนัดส่งมอบที่บริเวณถนนสาธารณะ หมู่ 3 ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับยาบ้าตามที่ล่อซื้อแล้ว จึงติดตามไปตรวจค้นบ้านของนายบุญสม ฯ จนพบของกลางยาบ้าเพิ่มอีก 72,000 เม็ด (35 มัด 6 ถุง) และยาไอซ์อีกจำนวน 6.66 กิโลกรัม จึงทำการจับกุมและตรวจยึดของกลางพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดฐานร่วมกับนายณรงค์ หรือตุ้ย วรานนท์ ร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ผลจากการจับกุมครั้งนี้ สามารถตรวจยึดของกลาง ยาบ้าจำนวน 73,200 เม็ด ยาไอซ์ 6.649 กิโลกรัม พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันสีเขียวเทา ทะเบียน บห 8071 ราชบุรี/ รถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ 4 ประตูสีเทา ทะเบียน กพ 1266 ราชบุรี / รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha zoomer x สีแดง ทะเบียน 1 กก 5776 ราชบุรี
สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย สาขาปากท่อ ชื่อบัญชีนายบุญสม ใจคม ยอดเงินคงเหลือในบัญชี 260,549.17 บาท และบัตร ATM ธนาคารกรุงไทยจำนวน 1 ใบ รวมทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึดตาม พ.ร.บ. มาตรการฯ มูลค่าประมาณ 700,000 บาท ซึ่งหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการติดตามจับกุม นายณรงค์ หรือ ตุ้ย และดำเนินการขยายผลเครือข่ายนี้ พร้อมทั้งดำเนินการตามพรบมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําผิดเกี่ยวกับยาเสพติดพุทธศักราช 2534 ต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์อานันท์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ ตำรวจภูธรภาค 7 ได้เพิ่มความเข้มงวดในการจับกุมผู้กระทำผิด โดยสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาป้องกันตนเอง และเพิ่มความระมัดระวังในการเข้าปฏิบัติ ส่วนเครือข่ายผู้ต้องกลุ่มนี้ ตำรวจจะเร่งสืบสวนดำเนินคดี และเร่งติดตามตัวนายณรงค์ หรือ ตุ้ย วรานนท์ ที่ยังหลบหนี โดยแนวทางการสืบสวนเชื่อว่า ยังคงอยู่แนวชายแดน ซึ่งจะเร่งประสานการปฏิบัติกับพื้นที่ เพื่อดำเนินการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
