นครปฐม : ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 ตามรวบเครือข่ายยานรก “ขวัญบางปะอิน” หลังฮึดสู้ยิงตำรวจเจ็บ หนีไปกบดานทำไร่ในเขตอำเภอสวนผึ้ง สุดท้ายไม่รอด สืบสวนภาค 7 ตามรวบพร้อมลูกสมุนอีก 1 คน ยึดยาบ้าอีก 100,000 เม็ด พร้อมอาวุธปืน
(วันที่ 15 มิ.ย.63) ที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 7 พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.สืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผบก.สืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายและนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโทธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งได้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวนติดตามบุคคลที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ
โดยจับกุมนายสุรสิทธิ์ หรือขวัญ หรือเต๋า พงษ์ฉาย เครือข่ายขวัญบางปะอิน ซึ่งเป็นมือยิงตำรวจกรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา บาดเจ็บขณะล่อซื้อยาเสพติด และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ จ 11/2559 ลงวันที่ 9 มกราคม 2559 ข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำตามหน้าที่ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควรร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต
ข่าวน่าสนใจ:
พลตำรวจตรี พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาดังกล่าว ได้หลบหนีมาอยู่ในหุบเขานางชี เขตอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จึงได้ประสานท้องที่ นำกำลังลงพื้นที่ จนสามารถจับตัวนายสุรสิทธิ์ หรือขวัญหรือเต๋า พงษ์ฉาย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ที่ 4 ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะกำลังมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ที่บริเวณหน้าเซเว่น หน้ารีสอร์ตภูผาผึ้ง
และได้นำหมายค้นศาลจังหวัดราชบุรีที่ ค.407/2563 เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 39 หมู่ที่ 3 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้งจังหวัดราชบุรี และเข้าทำการตรวจค้นภายในไร่หุบนางชี ตําบลสวนผึ้ง จนเป็นเหตุให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 1 ราย คือ นายธีรพงษ์ โพธิ์ม่วง ซึ่งมีหน้าที่เก็บรักษายาเสพติด และอาวุธปืนของกลาง
โดยต่อมาได้ขยายผลต่อไปยังเครือข่ายนายนะฯ อยุธยา ซึ่งได้ซ่อนตัวอยู่ตามชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน จนสามารถทำการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้าเพิ่มเติมได้อีก จำนวน 50 มัด(100,000เม็ด) ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี
โดยมีของกลางที่ได้จากการตรวจค้นตรวจยึดประกอบด้วยยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าจำนวน 50 มัด (100,000 เม็ด) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์น้ำหนัก 37 กรัม อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. ยี่ห้อบาเร็ตต้า สีดำจำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 14 นัด อาวุธปืนไรเฟิลขนาด .223 ยี่ห้อ CZ จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 1 นัด อาวุธปืนไรเฟิลขนาด 22 LR ยี่ห้อ KAICO จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 9 นัด อาวุธปืนลูกซองยาวขนาดเบอร์ 12 ไม่มีเลขทะเบียน พร้อมกระสุนปืน 3 นัด และ อาวุธปืนเดี่ยวลูกซองยาวขนาดเบอร์ 12 ยี่ห้อเรมิงตัน 812 จำนวน 1 กระบอก
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจยึดทรัพย์สิน รถยนต์ยี่ห้อ Toyota D4D 4 ประตู สีน้ำเงินเทา ทะเบียน กข 1822 ระนอง 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ ทะเบียน ฆง 609 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คันสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 4 เล่มพร้อมบัตรเอทีเอ็มยอดเงินในบัญชี 140,000 บาทรถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึดประมาณ 1,500,000 บาท
ทั้งนี้โดยทางเจ้าหน้าที่ จะได้ดำเนินการติดตามจับกุมบุคคลในเครือข่ายนายขวัญบางปะอินและเครือข่ายในอยุธยา ซึ่งได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และจะดำเนินการขยายผลเครือข่ายนี้ พร้อมทั้งดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการ ในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดพุทธศักราช 2534 ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: