X

สองแม่ลูกโวย ถูกขาใหญ่ยิงปืนใส่รุมทำร้ายคดีไม่คืบ

นครปฐม : สองแม่ลูกร้านข้าวต้มโต้รุ่ง ร้องผ่านสื่อ ถูกแก๊งขาใหญ่พกปืนโชว์ ไม่พอใจลูกชายตอนรับออเดอร์ ชักปืนยิงใส่ขา 1 นัด โชคดีกระโดดหลบทัน แต่ไม่วายโดนรุมเตะจนข้อมือหลุดบิดเบี้ยว แจ้งตำรวจกว่า 2 เดือน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีภาพกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน เตรียมร้องขอความเป็นธรรมจาก ผบช.ภ.7

วันนี้ 22 ตุลาคม 61 ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวสุนันท์ (เจ๊นันท์) อ่อนศิร อายุ 38 ปี และนายนันทวัฒน์ (เวย์) อ่อนศิริ อายุ 19 ปี บุตรชาย ซึ่งเปิดเป็นร้านช้ามต้มเจ๊ดี&เจ๊นัน ข้ามต้มโต้รุ่ง อาหารตามสั่ง หน้าตลาดคุณาวรรณ เลขที่ 55/4 ม.7 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นร้านที่เปิดอยู่ริมถนนมาลัยแมนฝั่งขาเช้าตัวเมืองนครปฐม ว่าได้ถูกลูกค้าที่เข้ามาสั่งอาหารชักปืนยิงใส่และรุมเตะ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้ทำการแจ้งความไว้ที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ผ่านมาแล้วกว่า 2 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้าไปถึงไหน พร้อมนำภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดในคืนวันเกิดเหตุ มาเปิดเผยให้ดูถึงพฤติกรรมของกลุ่มดังกล่าว หวั่นจะได้รับอันตรายและกลับมาทำร้าย เนื่องจากคนก่อเหตุเป็นลูกชายคนมีฐานะ และยังเคยถูกจองจำในคดียิงคนตายมาแล้ว  นางสาวสุนันท์ อ่อนศิริ หรือเจ๊นัน เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกในคืนเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เวลาประมาณ 02.20 น. ของคืนวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่าน ได้เปิดร้านตามปกติ จากนั้นมีลูกค้าประจำ คือนายจักร (ไม่ทราบชื่อจริง) นามสกุล ศิลาประเสริฐ ได้มาถึงที่ร้านก่อน จากนั้นได้มีชายอีก 1 คนขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สีบรอนซ์เงิน มาจอดที่หน้าร้าน ทราบชื่อต่อมาคือ นายพัศพงษ์ อู่ตะเภา หรือฉายา เอกชิน เมื่อมาถึงหน้าร้านก็ได้ชักอาวุธปืนที่ติดตัวมาออกจากเอวชึ้นโชว์เพื่อน และมีแม๊กกาซีนตกลงถึงพื้นโดยมีลักษณะอาการคล้ายคนมึนเมามาก่อนหน้า

จากนั้นได้มานั่งรวมกันที่หน้าร้าน ที่โต๊ะริมถนน โดยมีเพื่อนร่วมโต๊ะรวม 4 คน ซึ่งตนเองได้เดินมารับออร์เดอร์ ก็ยังพูดจากันปกติ จากนั้นได้เดินกลับไปทำอาหาร 2 เมนูที่สั่งไว้ เวลาเดียวกันลูกชายคือ น้องเวย์ ได้เดินไปเสิร์ฟและบริการ แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ด้วยความตกใจจึงวิ่งเข้าไปดูและพบว่า นายพัศพงษ์ ยืนถือปืนด่าลูกชายอยู่ จึงได้วิ่งไปยกมือไหว้ และขอไม่ให้มีเรื่องกัน แต่เมื่อลูกชายนั่งลงกับพื้น นายพัศพงษ์ หรือเอกชิน ตรงได้เข้าเตะที่ใบหน้าของลูกชาย ตนองได้พยายามดึงลูกชายเข้ามาในอ้อมกอดแล้ว แต่กลับมีเพื่อนในกลุ่ม 3 คนสลับกันเตะเข้าที่ใบหน้าลูก ทั้ง ๆที่ตนเองได้ พยายามตะโกนบอกว่า ลูกหนูเอง หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งช่วงนั้นกลัวมากเพราะมี 3 ใน 4 คนนั้น พกปืนมาด้วย ไม่รู้ว่าใครจะชักปืนขึ้นยิงตนเองกับลูกชาย แต่เมื่อมาดูกล้องวงจรปิดก็ต้องตกใจเพราะเห็นว่า ช่วงที่มีเสียงปืนดังเขาพยายามจะยิงไปที่ขาของลูกชาย แต่กระโดดหลบได้ทันก่อนจะมีการรุมเตะลูกชายในอ้อมอกของตัวเอง โดยไม่สนว่าจะมีผู้หญิงเข้าไปร้องขอแล้ว

นางสุนันท์ บอกอีกว่า จนมาถึงวันนี้คดีดูเหมือนคดีจะเงียบไปเฉยๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่มีการออกหมายหรือเรียกตัวมาดำเนินคดีใดใด และเท่าที่รู้ทราบว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลในตัวเมืองนครปฐม ชอบขี่รถ จยย.บิ๊กไบค์ ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เกรงว่าจะได้รับอันตรายในภายหลัง จึงต้องออกมาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน เพราะเท่าที่รู้คือ นายพัศพงษ์ หรือเอกชิน และนายจักร ที่เห็นในคลิบ คือ 2 คน ที่ชักปืนออกมาชัดเจน นั้นมีคดีติดยิงคนตาย และคดีพกพาอาวุธปืน เพิ่งจะพ้นโทษออกมาไม่กี่ปี และยังอยู่ในระหว่างควบคุมความประพฤติ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะร้องขอความปลอดภัย ต่อผู้บังคับการจังหวัดนครปฐม และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ต่อไป

ด้าน นายนันทวัฒน์ (เวย์) อ่อนศิริ อายุ 19 ปี ได้เปิดให้ดูบาดแผลซึ่งที่แขนขวา ได้มีการผิดรูปอย่างเห็นได้ชัด  2 จุด โดยได้บอกว่า  วันที่เกิดเหตุเห็นนายพัศพงษ์ หรือ เอกชิน คนที่ขี่บิ๊กไบค์ เข้ามามีท่าทีเหมือนคนเมา เมื่อลงมาจากรถก็ได้ชักปืนที่อยู่ในกระเป๋าคาดเอวมาโชว์เพื่อน และได้ขยับมาใส่เอวไว้ เหมือนคนพร้อมจะมีเรื่อง แต่ตนเองก็เจอคนกลางคืนมาเยอะซึ่งก็ไม่ได้กลัวอะไร โดยเมื่อเขาสั่งของเสร็จตนเองก็ได้เดินไปเสิร์ฟของตามปกติ แต่เขาพูดแซวอะไรมาสักอย่างจำไม่ได้ ตนเองจึงแซวกลับไป เหมือนกับปกติที่มีการพูดหยอกล้อกับลูกค้าที่มาที่ร้าน เพราะเห็นว่ามีคนรู้จักนั่งในโต๊ะ เมื่อตนเองเดินกลับมาอีกครั้ง นายเอกชินก็ได้พูดลักษณะมาคล้ายว่าจะยิง ตนเองก็ได้บอกไปว่าไม่กลัว จากนั้นเขาก็ชักปืนขึ้นทันทีและพยายามจะยิงใส่แถวๆ ขา ตนเองเห็นแล้วจึงได้กระโดดหลบเฉียดกระสุนไปนิดเดียว

ตนพยายามยกมือไหว้ขอโทษหลายครั้ง แต่เขาไม่หยุด และสั่งให้ผมนั่งลง ผมก็นั่งลงและพูดขอโทษไปด้วย แต่เขาก็ไม่หยุด และตรงเข้าเตะเสยหน้า 1 ครั้ง แต่ตนเองได้เอาแขนขวาบังไว้ ก่อนที่เพื่อนเขาอีก2- 3 คน ได้เวียนกันเข้ามาสลับเตะใส่ที่หน้าซึ่งทุกครั้ง ตนเองต้องยกแขนที่เคยหักอยู่บังหน้าไว้ โดยหนึ่งในนั้นมีคนพูดว่า มึงไม่รู้ซะแล้วว่าเล่นกับใคร ซึ่งช่วงนั้นแม่ได้มากอดและช่วยร้องขอคนพวกนั้นให้หยุดรุมเตะ และสั่งให้เดินกลับเข้าไปในร้าน เมื่อมาดูแขนพบว่ามันเบี้ยวผิดรูปและปวดมาก ซึ่งถึงวันนี้แขนก็ผิดทรงมากขึ้นและมีก้อนเนื้อในจุดที่แขนหักเพิ่ม ต้องผ่าตัดรื้อใหม่ทั้งหมด ส่วนข้อมือที่หลุดจากท่อนแขนก็เจ็บปวดตลอดเวลา ยิ่งเวลามาช่วยแม่เสิร์ฟข้ามต้มตอนกลางคืนต้องคนระวังว่า นายเอกชิน กับพวกจะกลับมาที่ร้านวันไหน เมือ่ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ผ่านมาก็จะระแวงสะดุ้งตลอด

พิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ – ขนิษฐา ชื่นยินดี / ภาพ-ข่าว นครปฐม

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน