นครปฐม : จากกรณีโลกโซเชียลเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่น เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เอกภพ เหลือรา” ได้เผยแพร่คลิปสองตายายเปิดคลินิกทำแท้ง ย่านพุทธมณฑล สาย 4 โดยผู้โพสต์ระบุว่า ลูกชายเจ้าของคลินิกอ้างว่าเป็นการทำแท้งถูกกฎหมาย
แต่ภาพที่ชวนหดหู่ใจในคลิปคือ คนที่รับทำแท้งเป็นตากับยายที่อายุมากแล้ว ซึ่งมีการเจรจาตกลงราคากับลูกค้าเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ตามรายงานแจ้งว่า ชายสูงวัยเป็นนายแพทย์ด้วย ซึ่งชาวโซเชียลได้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการแอบอ้างเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
โดยเหตุการณ์ในคลิป เป็นภาพตากับยายสลับกันไปจับท้องหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนที่ผู้เป็นยายจะพูดว่า “น่าจะ 10 สัปดาห์แล้ว” และคลำบริเวณท้องของหญิงสาวต่อก่อนเอ่ยออกมาอีกว่า “ตกลงมั้ย 6 พัน”
ผู้เผยแพร่คลิปยังนำภาพมาเปิดเผยเพิ่มเติมและระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้สองตายายก็ทำแท้งให้เด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งหลังจากคลิปเผยแพร่ ชาวโซเชียลต่างก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความปลอดภัย พร้อมตั้งคำถามด้วยว่า สองตายายใช่แพทย์จริงหรือไม่นั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ช่วงเช้าวันที่ 25 ม.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.กระทุ่มแบน พร้อมด้วยนายหฤฑีฐ์ ศรีเอียด ปลัดอาวุโส อ.กระทุ่มแบน, เภสัชกรหญิง อัญชลี ลัดดากลม เภสัชกรชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.กระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร / ตรวจสอบอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้นแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนพุทธมณฑลสาย 4 หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์วีดิโอคลิปเจ้าหน้าที่ชายหญิงสูงวัย กำลังตรวจครรภ์คนไข้ เพื่อเตรียมทำแท้ง
พบว่า คลินิกดังกล่าว มีชื่อว่า พุทธมณฑลสาย 4 การแพทย์ ได้ทำการรื้อป้ายคลินิกออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูคลินิกงดให้บริการ ทราบจากเพื่อบ้านว่า หลังมีคลิปแฉออกไปทางโลกโซเชียล สองตายายก็รื้อป้ายออกและปิดให้บริการมา 3 วันแล้ว ไม่ออกมาให้เห็นหน้าเหมือนเดิม และเมื่อเจ้าหน้าที่ปีนมองลอดช่องประตู พบว่าภายในคลินิกเปิดทีวีทิ้งไว้ และด้านหลังคลินิก เครื่องปรับอากาศยังเปิดทำงานอยู่ จึงสงสัยว่าน่าจะหลบอยู่ภายในคลินิก ซึ่งเป็นที่พักด้วย แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากไม่มีหมายค้น และเรื่องนี้ยังไม่มีผู้เสียหายชัดเจน
นายหฤฑีฐ์ ศรีเอียด ปลัดอาวุโส อ.กระทุ่มแบน ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าคลินิกดังกล่าว ได้รับการตรวจประจำปีทุกปี โดยมีใบอนุญาตถูกต้อง และยังไม่หมดอายุ ส่วนข้อมูลตามที่เป็นข่าวนั้นยังไม่ทราบว่าจริงเท็จยังไง ยังไม่มีการฟันธง แต่หากพบว่ามีการลักลอบทำผิดจริง ก็จะต้องถูกดำเนินการด้วยมาตรการ 2 ส่วน ได้แก่ มาตรการทางอาญา และมาตรการทางปกครอง
ส่วนในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.)ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบด้านในได้ และจากการสอบถามร้านค้าในละแวกใกล้เคียง พบว่า ไม่มีใครรู้มาก่อนว่า สองตายายจะทำแบบนี้ และไม่อยากเชื่อ ซึ่งสุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากไม่มีหมายค้น ซึ่งจะต้องรอสืบสวนในทางลับต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ที่ลงพื้นที่ ยังเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้มีผู้หญิงโทรศัพท์ไปแจ้งว่า คลินิกแห่งนี้ จะเลิกทำอย่างถาวร ซึ่งจะต้องรอดำเนินการตามระเบียบกฏหมายต่อไป ว่า จะต้องทำอย่างไรต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายแสดงตัวออกมา ว่าคลินิกแห่งนี้ลักลอบทำแท้งจริงหรือไม่
