นครปฐม- ผบช.ภาค7แถลง ลอตเตอรี่30ล้าน หลักฐานแน่นเป็นของครูปรีชา จ่อหมายเรียกแจ้งข้อหาอดีตตำรวจ ยักยอกทรัพย์ หรืออาจโดนข้อหารับของโจร หลังตามเส้นทางลอตเตอรี่ตั้งแต่กองสลากจนถึงยี่ปั๊วรวมเล่มก่อนส่งให้แม่ค้าที่กาญจนบุรี
เวลา 14.00 น. วันที่ 31 ม.ค.61 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้ดูแลรับผิดชอบ คดีหวยอลเวง ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้าน ที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล นำไปขึ้นเงินที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ครูปรีชา ใคร่ครวญ ออกมาอ้างเป็นเจ้าของ แต่ทำตกหายไป เหตุเกิดที่ตลาดเรสซิตตี จังหวัดกาญจนบุรี
โดยในช่วงเช้า ได้มีการประชุมร่วมกับคณะทำงานเพื่อสรุปผลการดำเนินการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด เพื่อทำความจริงให้กระจ่างนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชน โดยตั้งไว้ 3 ประเด็นหลักคือ เส้นทางของสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดนี้ มาขายที่จังหวัดกาญจนบุรีหรือไม่ 2. แม่ค้าขายให้ครูปรีชาจริงหรือไม่
3.ร.ต.ท.จรูญฯ ได้สลากชุดนี้มาอย่างไรซึ่งอาจจะซื้อมาหรือเก็บมาก็ได้จากการตรวจสอบเส้นทางของสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ทราบว่ายี่ปั้วอยู่ที่สนามบินน้ำโดยมีผู้รวบรวมเล่มเพื่อทำเป็นสลากชุดโดย 1 ชุด 5 ใบ จะต้องใช้สลากมากถึง 500,000 ฉบับ ถึงจะสามารถรวมชุด 5 ใบได้ ต่อจากนั้นได้มีการขายให้กับแม่ค้าที่ตลาดเรสซิตตี้ จ.กาญจนบุรี
ซึ่งจากการลงพื้นที่ของชุดสืบสวนบริเวณดังกล่าวมีผู้ขายลอตเตอรี่ 5 แผง 4 เจ้าของ สลากชุดดังกล่าวมีการขายให้กับแม่ค้าข้างเคียงก่อนจะขายให้ครูปรีชา เมื่อสอบถามไปกับแม่ค้าได้มีการยืนยันว่าสลากที่มีเลข 26 เวลานั้นมี 3 ชุด 226 , 326 และ 726 ซึ่งเป็นชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 ส่วนชุด 326 ได้มีพยานยืนยันซื้อไปจริง ส่วนชุด 226 ลูกชายของแม่ค้าได้นำไปขายที่อื่น ส่วนชุด 726 แม่ค้าได้ขายให้กับแม่ค้าใกล้เคียง ก่อนจะขายต่อให้กับครูปรีชา
ต่อข้อถามเรื่องซองพลาสติกซึ่งเป็นหลักฐานอีกชิ้นตำรวจได้ตัดออกไป เนื่องจากมีการจับกันหลายคน ทั้งแม่ค้า ลูกค้ารายอื่น พนักงานสอบสวน รวมถึง ร.ต.ท.จรูญ และครูปรีชา เท่ากับเป็นพยานหลักฐานชิ้นนี้ใช้อะไรไม่ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตัดออกไ ในส่วนของลอตเตอรี่ ได้ส่งตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีผลเป็นมาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับของสังคม
หลักฐานภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญได้ถูกลบไปก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากวันที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุห่างจากวันต้นเรื่องถึง 28 วันซึ่งถือว่านานมากข้อมูลจากเครื่องบันทึกส่วนใหญ่เก็บได้ไม่เกิน 15 วัน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ ก็ไม่พบข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์ แต่หากใครมีภาพวงจรปิด ตำรวจก็อยากจะได้มาเพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการทำความจริงให้กระจ่าง
ทางด้าน พลตำรวจตรี กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า หลังจากนี้ จะได้ส่ง ข้อสรุปทั้งหมดไปให้กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ทำหนังสือเรียบร้อยตำรวจโทจรูญมารับทราบข้อกล่าวหา ยักยอกทรัพย์ตกหาย หรือรับของโจรเนื่องจากยังไม่มีหลักฐานประจักษ์พยานยืนยันว่าใครเป็นผู้เก็บสลากชุดดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นไปตามที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ แต่ต้องให้เวลาในการเตรียมเอกสารหลักฐานมาแถลงแย้งข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นสิทธิของ ร.ต.ท.จรูญฯ หรือหากระบุพยานคนไหนพนักงานสอบสวนก็จะต้องเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: