นครปฐม : สาวเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง ประกาศขายบ้านประชดชีวิต ถูกโจรขึ้นบ้าน โจรกรรมทรัพย์สินกว่า 2 ล้านบาท โวย ! โครงการเมินรับผิดชอบ ยืนหนังสือร้องจังหวัด ขอความเป็นธรรม
น.ส.ภาปณัฐ สุขอนันต์ อายุ 34 ปี เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง Bovany อยู่บ้านเลขที่ 59/525 โครงการหมู่บ้าน อยู่สบาย 8 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 เวลาประมาณ 22.30 น. ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินภายในบ้าน เป็นพระเครื่อง พระบูชา พระเลี่ยมทอง นาฬิกาฝังเพชร และทองรูปพรรณ หนึ่งในจำนวนทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมไป พระกริ่ง วัดสุทัศน์ อยู่ 1 องค์ ซึ่งมีแค่มี 35 องค์ ในประเทศไทย เป็นมรดกตกทอดมาจากบิดา มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน เวลาไล่เลี่ยกัน คนร้ายยังบุกเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินภายในบ้านของ น.ส.ปุณยนุช. มงคล อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 59/516 ซึ่งอยู่ถัดไปแค่ 3 หลัง คนร้ายได้เงินสด 180,000 บาท, ทองรูปพรรณน้ำหนัก รวม 15 บาท, พระเครื่อง 15 องค์ และเครื่องเพชร มูลค่ากว่า 1 แสนบาท หลบหนีไปอย่างลอยนวล โดยมี ร.ต.อ.ตรงศักดิ์ ค้าข้าว รอง สวส.สภ.เมืองนครปฐม เป็นร้อยเวรเจ้าของคดี ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ซึ่งการก่อเหตุของคนร้ายรายนี้ มีลักษณะเหมือนรู้ความเคลื่อนไหวของคนในบ้าน และทางเข้าทางออกหมู่บ้านเป็นอย่างดี
น.ส.ภาปณัฐ กล่าวว่า สิ่งที่รู้สึกแย่ที่สุด คือ หลังเกิดเหตุการณ์ ไม่มีเจ้าหน้าที่ของโครงการหมู่บ้าน เข้ามาดูแล หรือสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีแต่ทางผู้เสียหายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามคดี เพื่อหาเบาะแสคนร้าย ทั้งที่มีการจ่ายค่าส่วนกลางด้านระบบการรักษาความปลอดภัย ล่วงหน้าไปแล้ว 2 ปี โดยเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 ได้ติดต่อสอบถามไปยัง คุณยุพิน รัชตวุฒิพงศ์ (เจ้าของโครงการ) นัดว่าจะเข้ามาไกล่เกลี่ย ภายใน 7 วัน พอใกล้ถึงกำหนดก็เพิกเฉย
จนกระทั่งวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 สำนักงานโครงการได้ส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุย และสอบถามเกี่ยวกับปัญหา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด แจ้งเพียงว่า ไม่มีอำนาจการตัดสินใจ ต้องรอทางเจ้าของโครงการสรุป เมื่อเป็นเช่นนั้น ตนจึงติดต่อเข้าพบ นายพล ไทยอ่อน ทนายความโครงการ เพื่อขอตรวจสอบเอกสารสัญญาว่างจ้างบริษัท รปภ ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงตลอดเรื่อยมา และไม่มีข้อสรุป
น.ส.ภาปณัฐ เปิดเผยอีกว่า ยังมีผู้เสียหานอีกหลยราย ที่พบเจอปัญหาเหมือนกัน ทำให้เกิดความสงสัยในการบริหารจัดการ ของโครงการ ด้านสาธารณูปโภค ต่างๆ เช่น การรักษาความปลอดภัย ไม่มีจุดตรวจ (ตู้แดง) กล้องวงจรปิด ไฟฟ้า น้ำประปา ที่ทิ้งขยะ เป็นต้น กำแพงหมู่บ้าน เตี้ย ต่ำ จนทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโจรกรรม ปีนเข้ามาภายในโครงการหมู่บ้าน ระบบการเข้าออกของคนภายในและภายนอกโครงการ ไม่เป็นตามระบบที่ชัดเจน หรือมาตรฐาน รวมถึงการเก็บประวัติผู้เข้าออกโครงการ
นอกจากนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา น.ส.ภาปณัฐ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงต่อผู้ว่าราชการ จ.นครปฐม ผ่านทางด้าน นายภิญโญ ประกอบผล รอง ผวจ.นครปฐม รวมไปถึง สคบ. และ ศูนย์ดำรงธรรมไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทางโครงการ 
77ข่าวเด็ด ได้ติดต่อไปยังโครงการหมู่บ้าน อยู่สบาย 8 ได้รับคำตอบจาก นายพล ไทยอ่อน ทนายความโครงการ ว่า เมื่อเกิดเหตุขึ้น เคยมีการพูดคุยกับทางผู้เสียหายแล้ว ทางโครงการก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่จะให้โครงการเข้าไปดำเนินการมากกว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้ เบื้องต้นได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัย เช่น เพิ่ม รปภ.ในเวลากลางคืน อีก 1 คน ติดกล้องวงจรปิด ส่วนกำแพงที่บอกว่าต่ำ การจะไปเพิ่ม หรือว่าการเสริมกำแพง ก็ต้องดูกฎหมายจัดสรรด้วย
ทนายโครงการ บอกอีกว่า โครงการก็ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบเสียทีเดียว แต่การจะรับผิดชอบหรือไม่เพียงใดนั้น ต้องยึดหลักการ ข้อกฎหมาย และเงื่อนไขสัญญา ซึ่งโครงการได้แจ้งไปยังบริษัท รปภ.ให้เข้าไปพบผู้เสียหาย เพื่อให้บริษัท รปภ.ได้มีการเจรจาตกลงกับผู้เสียหายโดยตรง ซึ่งคาดว่า ทางบริษัท รปภ.น่าจะเข้ามาประมาณ 2-3 นี้ ส่วนผู้เสียหายจะไปร้องเรียนต่อจังหวัด หรือ ศูนย์ดำรงด์ธรรม ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายที่พึงจะกระทำได้ แต่ก็ต้องมาดูว่าร้องเรื่องอะไรบ้าง
ส่วนทางด้านคดี และการติดตามตัวคนร้ายรายนี้ 77ข่าวเด็ด ติดต่อสอบถามไปยัง พ.ต.อ. ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ได้รับการเปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ตำรวจได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถเก็บลายนิ้วมือแฝงภายในที่เกิดเหตุได้ และส่งไปตรวจพิสูจน์แล้ว โดยวันจันทร์ (25 ก.พ.61) จะเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อสรุปคดีอีกครั้ง ว่าคืบหน้าไปอย่างไร เชื่อว่าน่าจะสามารถทราบตัวคนร้ายรายนี้ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
