จากกรณี คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวชิงทองร้านทองออโรร่า สาขาห้างตั้งฮั่วเส็ง ถนน สิรินธร แขวงและเขต บางพลัด กทม. ได้ทองรูปพรรณหลายชนิด น้ำหนักรวมกว่า 179 บาท ก่อนขี่จยย.หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สน.บางพลัด พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น.เดินทางเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว ก่อนเดินทางไปตรวจสอบร้านทองออโรร่า สาขาห้างตั้งฮั่วเส็ง ที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7และฝ่าย สส.สน.บางพลัด
พล.ต.ต.สุคุณ เผยว่า จากการตรวจสอบพฤติการณ์ ทราบว่า คนร้ายเป็นชาย 1 คนใช้อาวุธปืนยังไม่ทราบว่าปืนจริงหรือปืนปลอม ใช้รถจยย.ไม่ทราบสีและยี่ห้อมาจอดไว้บริเวณประตูทางออกด้านข้างห้างและเดินเท้าตรงไปที่ร้านทองห่างจากจุดจอดรถประมาณ 50 เมตร
โดยมีการควักอาวุธปืนและกระดาษซึ่งมีการเขียนข่มขู่พนักงานของร้านทั้ง 2 คน ให้นำสร้อยทองรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 179 บาท และเงินสดจำนวน 40,000 บาท ใส่กระเป๋าผ้าที่เตรียมมา ก่อนหลบหนีเดินเท้าออกห้างขึ้นจยย.ที่จอดไว้หลบหนีไปอย่างไรก็ดี ในส่วนของการตรวจสอบกล้องวงจรปิดนั้นคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะเป็นไปได้ว่าคนร้ายมีการมาดูลาดเลาไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ยังได้สั่งให้มีการนำพฤติการณ์คนร้ายที่เคยก่อเหตุในลักษณะคล้ายๆ กันในพื้นที่นครบาลและใกล้เคียงมาตรวจสอบเทียบกัน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ในการป้องกันเหตุนั้น จะเห็นได้ว่ามีการก่อเหตุกับร้านทองลักษณะดังกล่าวบ่อยครั้งได้มีการข้อความร่วมมือในเรื่องการป้องกันเหตุหรือติดลูกกรงป้องกันซึ่งส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี ให้การป้องกันเหตุให้มากกว่านี้
น.ส. มะลิ มั่นจิต อายุ25ปี พนักงานของร้านให้การว่า คนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 40-50ปี สูงประมาณ160ซม. ผิวดำแดง พูดจาสำเนียงภาคกลาง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ และสวมหมวกแก๊ปสีขาว ทำทีเข้ามาขอซื้อน้ำหนัก 5บาทก่อนหยิบกระดาษจดเมนูสั่งอาหาร จำนวน 2 ใบ ของร้าน ข้าน้อย ขอ ชาบู ที่อยู่ใกล้กับร้านทองประมาณ 5 เมตร เขียนด้วยดินสอ วางไว้ที่เคาน์เตอร์ เนื้อหาระบุข้อความ “อย่าส่งเสียงดัง มีน้ำกรด”
ก่อนควักอาวุธปืนที่เหน็บอยู่ที่เอว ออกมาจี้ก่อนพูดว่า”เก็บของมาให้หมด ไม่ใช่ของคุณ เร็วๆ อย่าตุกติก ไม่งั้นยิงนะ” โดยขณะที่คนร้ายก่อเหตุตนสักเกตุเห็นว่าคนร้ายมีรอยแผลเป็นที่จมูก หากตนได้เจออีกครั้งก็จำได้ทันที นอกจากนี้ยังสักเกตุว่า คนร้ายไม่มีท่าทีตื่นเต้นก่อเหตุอย่างช้าๆ พูดจาด้วยน้ำเสียงช้า ก่อเหตุรวมกว่า 3 นาที แต่มือทั้ง 2 ข้าง กลับสั่นคล้ายเป็นพาร์กินสัน หรืออาจสั่นเพราะตื่นกลัว
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้มีพยานในที่เกิดเหตุ พบว่าเมื่อวันที่ 2 ก.ย ที่ผ่านมาคนร้ายได้เดินทางมานั่งกินชาบูภายในข้าน้อย ขอ ชาบู ใกล้กับร้านทองที่เกิดเหตุ เพื่อดูดลาดเลาของร้านทองดังกล่าว และนำกระดาษจดเมนูของร้านดังกล่าวเขียนข้อความข่มขู่พนักงานงาน ตรงกับคำให้การของพนักงานที่เมื่อข่วงวันที่ 2 ก.ย.คนร้ายได้ทำทีมาขอเลือกซื้อทองครั้งหนึ่งแล้วแต่ไม่ได้ตกลงซื้อทองไปแต่อย่างใด
ในส่วนของยานพาหนะและเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี พบว่า เป็นฮอนด้าคลิก สีแดง-ดำ ไม่ติดทะเบียนออกจากห้าง ใช้ถนนสิรินธร ขาออก เลี้ยวซ้าย เข้า ถนน บรมราชชนนี วิ่งตรงไปแยกปิ่นเกล้า ก่อนจะเลี้ยวซ้าย แยกปิ่นเกล้า มุ่งหน้า สะพานพระราม 8 ไม่ขึ้นสะพานก่อนจะหายไป บริเวณแถวย่านบางยี่ขัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัว.
