นครปฐม : 2 หนุ่มนครปฐม พากันไปเที่ยวผับ ขากลับควบปิคอัพด้วยความเร็ว เสียหลักพุ่งข้ามเกาะชนเสาไฟฟ้าจนขาดกระเด็น เพื่อนที่นั่งมาด้านข้างดวงกุด ถูกอัดกับเสาไฟตายคาที่
อุบัติเหตุรายนี้เกิดขึ้นเมื่อ 01.10 น. วันที่17 ก.ย.62 น.พ.ต.ต.ทองปอนด์ ศรีหานาม ร้อยเวรสอบสวน สภ.กำแพงแสน นครปฐม รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้า มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ที่ถนนสายมาลัยแมน นครปฐม-กำแพงแสน หมู่ 1 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จึงพร้อมด้วยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ รุดไปยังที่เกิดเหตุ
ไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา ทะเบียน บร 4015 นครปฐม สภาพพังเสียหายหัวรถติดคาอยู่ที่โคนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณหน้าร้าน”ข้าวแกงปิ่นโต อาหารตามสั่ง” ประตูหน้าแถบด้านซ้ายยุบเป็นรูปเสาทรงกลมเข้าไปถึงตัวผู้โดยสาร และพบเสาไฟฟ้าเกาะกลางถนน ขาดกระเด็นลงมากองกับขอบถนน พบผู้ติดคาอยู่ในซากรถ จำนวน 2 คน จึงได้ช่วยกันนำร่างคนขับผู้บาดเจ็บ ส่งยังโรงพยาบาลกำแพงแสน
ทราบชื่อต่อมาคือ นายธำมรงค์ เตียวตะกูล อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 70 หมู่ 1 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม ส่วนผู้โดยสารที่นั่งด้านหน้าอีก 1 คน ร่างติดคาซากรถ พบว่าเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ต้องใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำร่างออกจากซากรถ ทราบชื่อต่อมาคือ นายศรราม เฉลิมทอง อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 77 หมู่ 9 ต.ทัพหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม
จากการสอบถามเพื่อนที่มาด้วยกัน โดยขับมาคนละคัน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายธำมรงค์ฯ ผู้บาดเจ็บ และนายศรรามฯ ผู้เสียชีวิต รวมทั้งตนและเพื่อน รวม 4 คน พากันไปเที่ยวสถานบันเทิง (วอลลุ่ม) หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน และมีการดื่มกินกันจนสถานบันเทิงปิดบริการ กลุ่มพวกตน จึงขับรถ 2 คัน เพื่อเข้าตัวเมืองนครปฐมมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยนายธำมรงค์ฯ ผู้บาดเจ็บเป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ และมีนายศรรามฯ ผู้ตายนั่งมาด้านข้าง
จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถกระบะบรรทุกผักที่ขับอยู่ด้านหน้าเกิดขวางทางอยู่ รถของนายธำมรงค์ฯ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตซึ่งขับมาด้วยความเร็ว ได้เบรกเสียงดังอย่างแรง จนรถเสียหลักพุ่งขึ้นเกาะกลางถนน ชนอัดเข้ากับเสาไฟฟ้าส่องสว่างอย่างแรง
จนเสาไฟฟ้าส่องทางขาดทั้งต้น ด้วยความเร็วรถยังพุ่งข้ามถนนไปหยุดนิ่งที่โคนเสาไฟฟ้าแรงสูง หน้าร้านอาหารตามสั่งฝั่งตรงข้าม ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 200 เมตร โชคดีที่ขณะเกิดเหตุไม่มีรถวิ่งสวนทางมา
เจ้าหน้าที่จึงนำศพผู้เสียชีวิต ไปไว้ที่ รพ.กำแพงแสน เพื่อชันสูตรอีกครั้ง พร้อมกับจะได้ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ของคนขับผู้บาดเจ็บ และจะได้สอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
พิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ – ขนิษฐา ชื่นยินดี / ภาพ-ข่าว
