นครปฐม : หนุ่มนักศึกษาปี 4 คณะอักษรศาสตร์ สถาบันดังเมืองนครปฐม หลงผิดติดการพนัน แอบฉวยเอาสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองของป้าจาก จ.ชัยนาท ไปขาย ป้าตามมาทวงถามที่บ้าน จนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกับพ่อ ปิดประตูล็อคห้อง คว้าปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ระเบิดศรีษะตัวเองหนีปัญหาตายอนาถ
เหตุหนุ่มนักศึกษา ปี 4 สถาบันดังนครปฐม ใช้อาวุธปืนฆ่าตัวตายรายนี้ เกิดขึ้นกลางตัวเมืองนครปฐม เมื่อเวลาประมาณ 08.16 น. (21 ก.ย.62) ศูนย์ 191 ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงตัวตาย ที่บ้านเลขที่ 217/1 หมู่ 2 ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จึงรายงานให้ ร.ต.อ.สถาพร ดวงสี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานภาค 7 แพทย์จากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
ไปถึงที่เกิดเหตุ ภายในห้องบนชั้น 2 ของบ้าน พบศพผู้ตายเป็นชาย ทราบชื่อคือ นายกิตติกานต์ ศรีสำเริง อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 4 คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ ในสภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน เข้าที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย จำนวน 1 นัด นอนจมกองเลือด ข้างศพยังพบอาวุธปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นางผาณิต สังข์ประเสริฐ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 243 หมู่ 6 ตำบลชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาทซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองเดินทางมาจากจังหวัดชัยนาท เพื่อมาทวงถามหาสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทอง จำนวนหลายรายการที่หายไป โดยก่อนหน้านี้หลานชายคือนายกิตติกานต์ฯ ผู้ตาย ได้ไปเที่ยวที่บ้านแล้วหยิบเอาไปขายที่ร้านทอง
เมื่อนายเผชิญ ศรีสำเริง อายุ 58 ปี ผู้เป็นบิดาทราบเรื่อง จึงได้ต่อว่าลูกชาย และมีปากเสียงทะเลาะกันขึ้น ด้วยความเครียดและน้อยใจ นายกิตติกานต์ฯ จึงวิ่งเข้าห้องปิดประตูล็อคห้อง ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทำให้ทุกคนในบ้านตกใจ รีบพังประตูเข้าไป จึงพบกับภาพอันเศร้าสลด นายกิตติกานต์ฯ ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ของนายเผชิญฯ ผู้เป็นพ่อ จ่อขมับยิงตนเองตายดังกล่าว
สำหรับนายกิตติกานต์ฯ ผู้เสียชีวิต นับเป็นนักศึกษาที่เรียนเก่ง และเป็นคนดี แต่ได้หลงเดินทางผิด ไปเล่นการพนัน อย่างหนัก ซึ่งคาดว่าอาจจะมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก จึงต้องกลายเป็นคนสร้างปัญหาให้กับญาติๆ โดยเฉพาะสิ่งของมีค่าที่ถูกนายกิตติกานต์ฯ หยิบฉวยเอามา ประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหลายเส้น น้ำหนักรวมประมาณ 8 บาท รวมทั้งพระเลี่ยมทอง ซึ่งเป็นพระวัตถุมงคลชื่อดัง และมีราคาอีกหลายองค์ แล้วได้นำไปขายเพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายกับภาระที่แบกรับอยู่
นางผาณิตฯ ยังเปิดเผยเป็นนัยๆ ว่า ทรัพย์สินที่หายไปก็มีมูลค่าจำนวนมาก ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นางผาณิตฯ ถึงกับเสียอกเสียใจอย่างหนัก กล่าวโทษตนเองที่เป็นต้นเหตุมาตามหาสิ่งของมีค่า ที่หลานหยิบมาจากบ้านจังหวัดชัยนาท จึงเกิดอาการเครียดทำให้หลานต้องตัดสินใจจบชีวิตแบบนี้
พิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ – ขนิษฐา ชื่นยินดี / ภาพ-ข่าว
