เกษตรจังหวัดสกลนคร แนะเกษตรกรไม่ควรตัดต้นยางพาราหลังราคาตกต่ำ รักษาไว้เป็นป่ายาง งดการใช้สารเคมีทุกชนิด ทำสวนอินทรีย์ ควบคู่กับการปลูกพืชเสริม และการเลี้ยงเป็ด-เลี้ยงไก่ แบบปล่อยอยู่กับธรรมชาติ เผยไข่ไก่อินทรีย์ฟองละ 5 บาท ผลิตไม่พอจำหน่าย
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสกลนคร เดินทางไปยังบ้านสวนเกษตรอินทรีย์ บ้านหนามแท่ง ต.บ้านถ่อน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โดยสวนแห่งนี้ได้ทำเกษตรผสมผสาน ควบคู่กับเกษตรอินทรีย์ และฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงไก่ จนประสบความสำเร็จ โดยอาศัยหลักการพึ่งพากันตามธรรมชาติ น้อมนำศาสตร์พระราชา และการสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ไม่พึ่งสารเคมี โดยมี นายณัฎฐกิตติ์ ของทิพย์ เกษตรจังหวัดสกลนคร เป็นเจ้าของสวนแห่งนี้
นายณัฎฐกิตติ์ ของทิพย์ เกษตรจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ในสวนแห่งนี้ผมปลูกทุกอย่างที่กินได้ ทำเกษตรผสมผสาน ขณะที่สวนยางพาราเดิมก็ยังคงรักษาไว้ให้เป็นป่ายาง มีการเลี้ยงเป็ดไก่เสริมเข้ามา โดยเฉพาะไข่ไก่อินทรีย์กำลังเป็นที่นิยมในท้องตลาด โดยการเลี้ยงให้อยู่กับธรรมชาติ ปล่อยให้ออกคุ้ยเขี่ยกินแมลง วิธีการเลี้ยงไม่ยากสร้างโรงเรือนให้ไก่ได้มีที่หลบฝนหลบแดด ไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่มีราคาแพง เกษตรกรสามารถนำเศษวัสดุเหลือใช้ภายในบ้าน เศษท่อนไม้มาทำเป็นโรงเรือนเพื่อลดค่าใช้จ่ายได้
ภายในโรงเรือนจะต้องมีที่ให้ไก่ได้ฟักไข่ มีคอนให้ไก่ได้เกาะนอนตอนกลางคืน รวมถึงอุปกรณ์ให้อาหาร-ให้น้ำ โดยผมจะให้กินข้าวเปลือกผสมรำ และถั่วงอกที่ผลิตขึ้นเองภายในฟาร์ม ซึ่งมีโปรตีนและคุณค่าทางอาหารสูง สำคัญที่สุดคือให้ไก่ไม่เครียด ให้มีพื้นที่ในการออกมาหาอาหารตามธรรมชาติ
ที่ของผมก็เป็นสวนยาง ถึงราคายางในปัจจุบันจะตกต่ำ และมีเกษตรกรบางรายได้ตัดทำลายสวนยาง แต่สำหรับผมขอแนะนำว่าควรเก็บรักษาไว้ ให้เป็นป่าสวนยาง และห้ามใช้สารเคมีใดๆ ภายในส่วน โดยการรักษาระบบนิเวศภายในสวนให้ปลอดสารพิษ
ข่าวน่าสนใจ:
เราปล่อยไก่ออกมาในตอนกลางวันให้อยู่กับธรรมชาติ คุ้ยเขี่ยจิกกินแมลงต่างๆ เช่น ตั๊กแตน ไก่จะมีผิวพรรณและสุขภาพที่ดี หน้าแดงสด เมื่อไก่มีความสุข ก็จะออกไข่สม่ำเสมอ และจะเป็นไข่ไก่คุณภาพดี เป็นไข่อินทรีย์ที่มีราคาสูง หน้าฟาร์มขายในราคาฟองละ 5 บาท ยินดีทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เพราะจะได้ไข่ไก่อินทรีย์ที่มีคุณภาพไปบริโภค
หากไก่เป็นหวัดก็พึ่งสมุนไพรธรรมชาติ โดยผมจะให้กินฟ้าทะลายโจร สำหรับไก่บ้านที่เลี้ยงเป็นไก่เนื้อใช้เวลาประมาณ 70 วัน น้ำหนักจะอยู่ที่ 1.2 กก.ขึ้นไป เนื้อจะนุ่มกำลังดีไม่เหนียว รสชาติไก่บ้านก็ขึ้นชื่อถึงความอร่อยและมีราคาที่สูง กก.ละ 120-150 บาท
สำหรับสวนยางก็เก็บน้ำยางทำยางแผ่นก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตก กก.ละ 40 บาท ก็เป็นราคาที่พออยู่ได้ หากตัดทำลายก็เสียดายมาก นอกจากนี้เกษตรกรยังหาพืชอย่างอื่นมาปลูกเสริมได้ อาทิ กาแฟ หรือ พริกไทย นำเป็ด-ไก่มาเลี้ยง กินวัชพืชและแมลง ซึ่งธรรมชาติจะเกื้อกูลให้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ในป่ายางพารายังมีเห็ดดินนานาชนิดให้เก็บรับประทาน เช่น เห็ดระโงก เห็ดโคน ฯ
ดังนั้นจึงขอแนะนำเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราเก็บรักษาป่ายางไว้ โดยปลูกพืชและสัตว์มาเลี้ยงเสริมสร้างรายได้ ตามข้อมูลข้างต้น หากเกษตรท่านใดสนใจสามารถมาศึกษาดูงานที่สวนเกษตรอินทรีย์แห่งนี้ หรือที่ สนง.เกษตรอำเภอ ผมยินดีถ่ายทอดความรู้ ให้เกษตรกรทุกคน
“ถ้าเกษตรกรทุกคนขยันขันแข็ง เรียนรู้ ตั้งใจ และอดทน ยังไงก็ประสบความสำเร็จ คิดดีทำดี และมีความสุขกับครอบครัว อยู่กับธรรมชาติ ช่วยกันพัฒนาต่อยอดให้ผู้บริโภคได้กินผลผลิตที่มีคุณภาพ ที่ดียิ่งๆขึ้นไป” นายณัฎฐกิตติ์ ของทิพย์ เกษตรจังหวัดสกลนคร กล่าว
ข่าวที่น่าสนใจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: