วันที่ 3 ส.ค. 2561 เวลา 10.00 น. นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และมอบนโยบายในการบริหารจัดการน้ำที่บริเวณ เขื่อนน้ำอูน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำอูน ต.แร่ อ.พังโคน จ.สกลนคร โดยมีนายเกรียงไกร กุลจิตบวร ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำอูน จ.สกลนคร พร้อมด้วยนายนิพนธ์ มังกรแก้ว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสกลนคร และส่วนราชการที่เกี่ยวในพื้นที่ ร่วมหารือและรับมอบนโยบาย
ล่าสุดวันนี้ปริมาณน้ำใน เขื่อนน้ำอูน อยู่ที่ +185.060 ท.รทก. ปริมาณน้ำในอ่าง 525.17 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำส่วนเกิน 5.17 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 100.99 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าเมื่อวาน(2ส.ค.61) เล็กน้อย ที่ 100.33 เปอร์เซ็นต์ มวลน้ำภายในเขื่อนเริ่มล้นปากกระโถน(สปิลเวย์) คิดเป็น 0.106 ล้าน ลบ.ม./วัน เข้าสู่คลองชลประทาน ลงลำน้ำอูน แม่น้ำสงคราม และลงสู่น้ำโขง ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ระยะทางประมาณ 140 กม.
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ในช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมาพบว่า พื้นที่จังหวัดสกลนครเกิดฝนตกหนาแน่น มีน้ำเข้าเขื่อนเฉลี่ยคิดเป็นวันละ 16 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนน้ำอูนสามารถระบายน้ำตามภาวะปกติได้วันละ 2.4 ล้าน ลบ.ม. ทำให้มวลน้ำเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดีลำน้ำอูน ตลอดระยะทาง 140 กม. ยังมีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งอยู่ที่ 50-120 ซม. และยังไม่กระทบต่อพี่น้องประชาชน
ถามว่าเมื่อน้ำเกิน 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว จะวิกฤติไหม ในเรื่องนี้ก็อยากให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ ตามมาตรฐานการก่อสร้างเขื่อนทั้งประเทศเป็นไปตามหลักสากล มีมาตรฐานสูง มีความคงทนแข็งแรง และมีการเผื่อพื้นที่รับน้ำ ในกรณีฉุกเฉินอีกกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
ดังนั้นเขื่อนน้ำอูนยังสามารถรับมวลน้ำได้อีกกว่า 260 ล้าน ลบ.ม. ถึงจะล้นสันเขื่อน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นไปได้ยากมาก ด้วยการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ บูรณาการการทำงานกับทุกหน่วยงาน ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนในพื้นที่ ทั้งด้านการเกษตร และการป้องกันปัญหาน้ำท่วม
อย่างไรก็ดีเพื่อความไม่ประมาท โดยเราก็ได้รับแจ้งมาจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ในช่วงวันที่ 5-8 ส.ค. นี้ ฝนจะตกหนาแน่น กรมชลประทานจึงได้ติดตั้งระบบผันน้ำ แบบกาลักน้ำบริเวณสันเขื่อนน้ำอูน ใกล้กับปากกระโถน เพื่อช่วยระบายน้ำออกจากเขื่อนเพิ่มเติม
ปัจจุบันเราติดตั้งท่อ ระบบกาลักน้ำไปแล้ว 10 ท่อ สามารถระบายน้ำออกได้วันละ 400,000 ลบ.ม./วัน ทำให้การระบายน้ำรวมในปัจจุบันอยู่ที่ 3.15 ล้าน ลบ.ม./วัน ซึ่งอยูในเกณฑ์ที่ดี
แต่กระนั้นเราก็จะเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำขึ้นอีก โดยจะเร่งติดตั้งท่อกาลักน้ำเพิ่มเติมอีก 15 ท่อ รวมเป็น 25 ท่อ คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 5 ส.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้ระบบกาลักน้ำมีกำลังการระบายรวม 1 ล้าน ลบ.ม./วัน
จากมาตรการดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนน้ำอูนลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมรองรับมวลน้ำซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นประชาชนจึงมั่นใจได้ นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว
ข่าวที่น่าสนใจ
สกลนคร”น้ำก่ำ”ไหลบ่าท่วมถนน พื้นที่การเกษตร ผวจ.สั่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ
