พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “ภูพานราชนิเวศน์” ครั้งที่ 36 มอบถ้วยพระราชทานให้กับทีม สกลนคร A ซึ่งชนะทีมร้อยเอ็ดไปอย่างสนุก 3-1 ประตู
วันที่ 28 ธ.ค. 2560 เวลา 15.00 น. ที่สนามกีฬาจังหวัดสกลนคร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มาเป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขัน และมอบถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร
ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “ภูพานราชนิเวศน์” ครั้งที่ 36 ประจำปี 2560 โอกาสนี้ นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นิสิตนักศึกษา ตลอดจนนักฟุตบอลคู่ชิงชนะเลิศ จากทั้งสองจังหวัด ร่วมถวายคำนับ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี อย่างพร้อมเพรียงกัน
สำหรับคู่ชิงชนะเลิศ. เป็นการพบกันระหว่างทีมสกลนคร A เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขาว กับทีมร้อยเอ็ด เสื้อแดง กางเกงดำ ทั้งสองทีมมีความมุ่งหมายเก็บชัยชนะเพื่อถ้วยพระราชทานอันเป็นเกียรติประวัติสูงสุด ร้อยเอ็ดเป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อน ภายใต้เสียงเชียร์ของแฟนบอลจากทั้งสองจังหวัด ซึ่งขนกันมาจนเต็มอัฒจรรย์ เจ้าภาพสกลนครA เริ่มต้นได้ดีกว่าทำเกมบุกป้วนเปี้ยนหน้ากรอบเขตโทษร้อยเอ็ดหลายจังหวะ แต่ยังไม่สามารถจบสกอร์ได้ ขณะที่ร้อยเอ็ดก็สามารถสร้างโอกาสสวนเกมขึ้นมา รูปเกมออกมาสนุกผลัดกับรุก-รับ เป็นสกลนครทำได้ก่อนในจังหวะเข้าทำใน น.18 โดย เบอร์ 13 Eugene Soque โหม่งบอลผ่านมือผู้รักษาประตูร้อยเอ็ดเข้าไปอย่างสวยงาม ภายใต้เสียงโห่ร้องดีใจของกองเชียร์ฝั่งสกลนคร ขึ้นนำ 1-0
ร้อยเอ็ดพยายามเปิดเกมบุกมากยิ่งขึ้นหวังทำประตูตีเสมอ เปิดโอกาสให้สกลนครสวนกลับและด้วยความผิดพลาดของกองหลัง ใน น.32 ผู้เล่นหมายเลข 9 เดชา ศิริฟอง หลุดเดี่ยวเข้าไปหักหลบผู้รักษาประตู แปบอลเข้าไปอย่างง่ายดาย สกลนครขึ้นนำ 2-0 จากสกอร์ดังกล่าวส่งผลให้สกลนครเล่นเกมได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ตั้งรับทำเกมบุกต่อเนื่อง ด้านร้อยเอ็ดก็พยายามสร้างสรรค์โอกาสเพื่อทำประตูแต่ก็ยังไม่คมพอจบครึ่งแรก สกลนคร เอ นำ ร้อยเอ็ด 2-0 ช่วงพักครึ่งมีการแสดงศิปวัฒนธรรมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 จากโรงเรียนภูดินแดงวิทยา สังกัด อบจ.สกลนคร
ครึ่งหลังสกลนคร A เขี่ยบอลเริ่มเกม ด้วยสกอร์นำห่างถึง 2 ประตู ร้อยเอ็ดจึงปรับแผนเร่งเกมบุกมากขึ้น ด้านสกลนครก็ผ่อนเกมบุกเน้นการต่อบอลที่แม่นยำ และยังคงเป็นสกลนครที่ทำเกมได้ดีกว่า น. 51 จากการแทงบอลทะลุช่องให้ หมายเลข 9 เดชา ศิริฟอง ยิงในกรอบเขตโทษผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างสวยงาม สกลนครนำห่างด้วยสกอร์ 3-0 ร้อยเอ็ดเปลี่ยนตัวผู้เล่นเสริมแนวรุกหวังตีไข่แตกเพื่อลดช่องว่าง ไล่สกลนครให้ทัน และสามารถทำเกมขึ้นมายิงประตูได้หลายครั้งแต่ ชัยณรงค์ บุญเกิด ผู้รักษาประตูสกลนคร ก็เซฟได้ทุกลูก
จนมาถึง น.65 ร้อยเอ็ดโดย หมายเลข 10 ธงไชย รัฐไชย เลี้ยงหลบกองหลังสกลนคร ก่อนยิงผ่านผู้รักษาประตูสกลนคร ตีตื้นขึ้นมา 3-1 ครึ่งหลังทด 4 นาที ร้อยเอ็ดเร่งเกมแต่ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลา สกลนคร A ชนะร้อยเอ็ดไปด้วยสกอร์ 3-1 สกลนคร A คว้าถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร พร้อมเงินรางวัล 250,000 บาท ร้อยเอ็ดได้รองแชมป์ อุดรธานี ได้ที่ 3 ชัยภูมิ ที่ 4 นักฟุตบอลยอดเยี่ยม นายเดชา ศิริฟอง จากสกลนคร ทีมมารยาทดีเป็นของจังหวัดชัยภูมิ
ทั้งนี้ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “ภูพานราชนิเวศน์” ได้เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2525 โดยได้ขอพระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศ จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะส่งเสริมให้ประชาชน ที่มีภูมิลำเนาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความตื่นตัวและสนใจในการเล่นกีฬาฟุตบอล ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้พสกนิกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างใกล้ชิด
ในวโรกาสที่พระองค์ทรงเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดที่ชนะเลิศจะได้ถือครองถ้วยพระราชทานเป็นระยะเวลา 1 ปี และได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ซึ่งถือเป็นประเพณีที่สืบต่อกันจนถึงปัจจุบัน และต่อมาที่ประชุม 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ได้มีมติให้จังหวัดสกลนครซึ่งเป็นที่ตั้งพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันถ้วยพระราชทานนี้ทุกปีต่อไป
