@ชุมชนเข้มแข็ง-อาจารย์เดโชฯ รับการขอขมาอโหสิกรรม “คนร้ายงัดไร่สีวลี” ยอมจำนนต่อหลักฐาน มีประวัติเคยลักทรัพย์ และยังเป็นเยาวชน เผยต้องการหาเงินเที่ยวปีใหม่ สอนอยากให้กลับตัวเป็นคนดีของสังคม (มีคลิป)
วันที่ 29 ธ.ค. 2560 เวลา 21.00 น. ที่ไร่สีวลี 99 ม. 15 บ้านไร่ ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร จากกรณี คนร้ายงัดไร่สีวลี เมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 28 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา อาจารย์เดโช สู่โนนทอง ได้ชื่อว่าปราชญ์เมืองสกลนครผู้บุกเบิกการทำน้ำไผ่กิมซุงบำบัดโรคออกสื่อหลายสำนัก หลังจากการโพสต์ประกาศขายพระสมเด็จเพื่อนำเงินไปสร้างสถานปฏิบัติธรรม
และที่ผ่านมาพบว่าถูกงัดบ้านขโมยทรัพย์สินไป 3 ครั้งแล้ว อาจารย์เดโช พักอาศัยอยู่กับภรรยาเพียงสองคนที่ไร่สีวลีซึ่งอยู่ไกลชุมชน จึงหวั่นวิตกถึงความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะภรรยา คือ นางแก้วไพทูรณ์ วชินนท์ ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ โชคดีมีญาติพี่น้องกับเพื่อนๆ ที่รู้ข่าวต่างเข้ามาให้กำลังใจอย่างไม่ขาดสาย
หลังจากเกิดเหตุก็ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.พรรณานิคม เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยทันที พร้อมตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สกลนคร ซึ่งได้เก็บข้อมูลอย่างละเอียด โดยเฉพาะลายมือในที่เกิดเหตุที่ตรวจสอบได้อย่างชัดเจนหลายจุด ที่เด่นชัดสุดอยู่ในกระจกบานเกร็ดครัวหลังบ้าน ซึ่งคนร้ายได้ถอดแล้วมุดเข้าไปขโมยทรัพย์สิน งัดประตูห้องพระเสียหาย รื้อค้นของภายในบ้านกระจัดกระจาย
ได้พระเหรียญและพระผงไปประมาณ 30 องค์ ในนั้นมีเหรียญพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ซึ่งอาจารย์เดโช เฝ้าเก็บรักษาไว้อยู่ด้วย มีโฉนดที่ดินหายไปหนึ่งชุด และเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนหนึ่ง โดยสงสัยบุคคล 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นคนในชุมชนที่เคยมีคดีลักทรัพย์และคดียาเสพติดอยู่บ่อยๆ กลุ่มต่อมาเป็นกลุ่มคนที่ต้องการได้พระสมเด็จของอาจารย์เดโชฯ ซึ่งอาจารย์ยืนยันว่าเก็บไว้ที่ธนาคาร ไม่ได้เก็บไว้กับตัว
อาจารย์เดโช สู่โนนทอง กล่าวว่า หลังข่าวการโจรกรรม เผยแพร่ออกไปมีเพื่อนบ้าน พลเมืองดี และน้องๆ เข้ามาให้ข้อมูลว่าเห็นรถ จยย.ต้องสงสัยป้วนเปี้ยนแถวบ้าน และได้ยินเสียงสุนัขเห่าช่วงบ่าย 2-3 แต่ก็ไม่ได้เอะใจว่ามีโจรงัดบ้าน พลเมืองดีหลายคนให้ข้อมูลกับตน แสดงถึงความสามัคคีของคนในชุมชน “ชุมชนเข้มแข็ง” เป็นหูเป็นหาไม่ให้โจรผู้ร้ายกระทำผิดได้โดยง่าย
จากนั้นในช่วงค่ำคืน(29 ธ.ค. 2560) เวลา ประมาณ 21.00 น. ด้วยอาจเป็นเพราะกระแสกดดันจากสังคมและการเกรงกลัวต่อโทษทางกฎหมาย ผู้ปกครองของผู้กระทำผิดได้นำลูกชายมาขอขมากับตน เมื่อพบหน้าตนก็ร้อง อ๋อ เพราะรู้จักเป็นอย่างดี เคยช่วยงานที่บ้านมาก่อน และยังเป็นเยาวชนอยู่
ตนก็เชื่อมั่นว่าเขาจะเป็นคนดีได้สักวัน ผู้ปกครองเข้ามาร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนก็อยากให้นำทรัพย์สินที่ขโมยไปมาคืน น้องเขาว่าเอาไปขายหมดแล้ว ตนก็อโหสิกรรมให้ ด้านผู้ปกครองก็อาสาว่าจะไปตามหาของมาคืนให้เท่าที่ได้ ถามว่าทำไมถึงขโมย เผยต้องการหาเงินไปเที่ยวปีใหม่ จึงบอกกับเขาว่ายังเด็กอยู่กลับตัวกลับใจยังทัน ตนให้อภัยไม่ติดใจอะไร แต่ในส่วนของโทษทางกฎหมายก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไป
อาจารย์เดโช สู่โนนทอง กล่าวต่อว่า มีหลายคนบอกกับตนว่าให้เอาเรื่องจนถึงที่สุด เพราะเคยกระทำผิดเช่นนี้บ่อยครั้ง แต่ตนคิดว่าความผิดสำเร็จไปแล้วทางกฎหมาย แต่ทางธรรมผมอโหสิกรรมให้เขา ไม่ติดใจเรื่องทรัพย์สินไม่ได้คืนก็ไม่เป็นไร หากวันที่น้องเขาพ้นโทษออกมาแล้วกลับมาขโมยอีก ตนก็จะให้อภัยอีก และหวังว่าเขาจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี หรือหากอยากมาทำงาน หรือมาฝึกสมาธิกับตนก็ยินดี
ตนเห็นคนที่หลงผิดก็อดสงสารไม่ได้อยากอบรมเขาให้เป็นคนดี เป็นการให้โอกาสคนผิดกลับตัวเป็นคนดี หากเขาไม่กลับตัวก็เป็นเรื่องของเขาแล้ว ทำสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้น ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า วันนี้เขาเข้ามา แทนที่จะหนีเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งโทษจากหนักจะได้เบาลง ส่วนเรื่องคดี-กฎหมาย หรือการมอบตัวให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: