ตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ร่วมประชุมสถานศึกษา กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ย้ำเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทหน้าสถานศึกษา ไม่มีผู้บาดเจ็บ เป็นการท้าทายทางโลกโซเชียลของนักเรียน 2 กลุ่ม พร้อมสร้างการรับรู้แก่เยาวชน และผู้ปกครอง แนะ การลงข้อมูลในโลกออนไลน์ ควรเช็คข้อมูลให้ถูกต้องก่อนแชร์
จากกรณี นักเรียน 2 โรงเรียน ในเขตอำเภอเมืองสกลนคร ท้าท้ายกันในโลกออนไลน์ ก่อนเดินทางไปก่อเหตุปาระเบิดปิงปอง เสียงดังที่หน้าโรงเรียนคู่กรณี ด้วยรถกระบะ และรถจักรยานยนต์ (วันที่ 20 พ.ย. 2566) เหตุการณ์ดังกล่าวได้แพร่กระจายไปในโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ปกครองนักเรียนเกิดความวิตกกังวล ต่อความปลอดภัยของบุตรหลาน ต่อมาผู้อำนวยการโรงเรียนของทั้งสองแห่ง ได้ออกประกาศปิดโรงเรียนเป็นเวลา 1 วัน เพื่อความปลอดภัย นั้น
วันนี้ (21 พ.ย. 2566) ที่ห้องประชุม ตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร พร้อมด้วย พ.อ.ดุสิต ธรรมสติ หน.ฝ่ายนโยบาย และเเผนฯ กอ.รมน.สกลนคร ฝ่ายปกครอง ศึกษาธิการจังหวัดสกลนคร ผู้อำนวยการสถานศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมเพื่อหาข้อสรุป พร้อมกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนอีก
พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว โดยตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจ ประสานการทำงานร่วมกับอำเภอและสถานศึกษา เพื่อกำหนดมาตรการในเขตพื้นที่ของตนเอง สร้างการรับรู้ต่อพี่น้องประชาชน ตลอดจนกลุ่มผู้ปกครอง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ยืนยันว่าไม่มีผู้บาดเจ็บ และไม่มีผู้เสียชีวิต สาเหตุเกิดจากความบาดหมางส่วนตัว ระหว่างกลุ่มนักเรียน ไม่ใช่ข้อพิพาทระหว่างสถาบันแต่อย่างใด โดยทั้งสองโรงเรียน ก็จะเข้าไปสร้างการรับรู้กับนักเรียน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องส่วนตัว เฉพาะกลุ่ม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าระงับเหตุด้วยความรวดเร็ว ในส่วนของสื่อโซเชียล ขอเน้นย้ำในการลงข้อมูล ควรเช็คกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง ชัดเจนก่อน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้รับสาร ทั้งนี้การลงข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง อาจสร้างความตื่นตระหนก หวาดกลัวต่อประชาชนที่รับข่าวสาร และอาจมีความผิดได้
อย่างไรก็ดี สถานศึกษา และตำรวจ จะได้เชิญผู้ปกครอง รวมทั้งนักเรียนคู่กรณี ทั้ง 2 กลุ่ม มาทำความเข้าใจและสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน โดยเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกับเยาวชนในทุกสถาบันด้วย สำหรับโทษทางกฎหมาย ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมขยายผลว่ามีผู้ใหญ่ หรือผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือไปยังสถานศึกษา ให้มีการสุ่มตรวจ อาวุธ และยาเสพติด เพื่อป้องปรามการกระทำผิด ควบคู่ไปกับการตรวจตราอย่างเข้มข้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกชั้นด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: